AWC ขานรับเปิดประเทศ ดัน 18 โรงแรมกระตุ้นท่องเที่ยว

เปิดประเทศ

“แอสเสท เวิรด์ คอร์ป” ขานรับนโยบายการเปิดประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจ-อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย พร้อมต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลกสู่ 18 โรงแรมในเครือทั่วประเทศด้วยมาตรฐาน SHA+ มั่นใจการท่องเที่ยวปลายปีนี้ต่อเนื่องต้นปีหน้ากลับมาคึกคักอีกครั้ง พร้อมเผยโฉม “คอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์” อีกหนึ่งโรงแรมคุณภาพในเครือ 9 พ.ย.นี้

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า จากนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โรงแรมในเครือทั้ง 18 แห่งทั่วประเทศของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่ตั้งอยู่ในหัวเมืองสำคัญอย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต ที่เปรียบเสมือนประตูด่านแรกในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย โดยตัวเลขอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้นทันทีกว่า 2 เท่า

วัลลภา ไตรโสรัส
วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC

รวมถึงแพ็กเกจ “Test & Rest SHA+” สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ด้วยบริการที่พักพร้อมการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ RT-PCR ที่ต่างได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณบวกของภาคการท่องเที่ยวในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2564 และในช่วงต้นปีหน้าที่เริ่มมีกำลังซื้อจากกลุ่มนักเดินทางชาวต่างชาติกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูงที่เริ่มเดินทางเข้ามาเป็น
กลุ่มแรก ๆ รวมถึงงานในรูปแบบที่การประชุมออนไลน์ไม่สามารถทดแทนได้

อาทิ งานแต่งงาน งานสัมมนารวมทีมสร้างพลังองค์กรและธุรกิจ ได้เห็นยอดคอนเฟิร์มการจัดงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าธุรกิจดังกล่าวจะมีอัตราเติบโตกลับมาดีได้ต่อเนื่อง และสามารถพลิกฟื้นต่อเนื่องในช่วงตั้งแต่ต้นปี 2565 เป็นต้นไป

“ด้วยกลยุทธ์ของ AWC ที่มีความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ทำให้บริษัทสามารถดึงฐานลูกค้าเดิมที่มีกำลังซื้อสูงกลับเข้ามาได้ทันทีตั้งแต่เริ่มเปิดประเทศ ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเราในการร่วมกับพันธมิตรให้การสร้างคุณค่าและประสบการณ์ รวมทั้งจัดรูปแบบบริการแบบองค์รวมในการดูแลการเดินเข้ามาในประเทศ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับการท่องเที่ยวไทยของเรากลับมาดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกอีกครั้ง” นางวัลลภากล่าว

และว่า ประกอบกับชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่โด่งดังในระดับโลก มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งทางทะเลและชายหาดอันงดงาม เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ หรือจะเป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งของภูมิภาค

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีอาหารมีชื่อเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และมีมาตรฐานในธุรกิจการบริการด้านการโรงแรมและที่พักระดับสากล ทำให้ไทยนอกจากเป็นจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับการเดินทางแล้ว ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องการกลับมาเยือนหลังจากสถานการณ์ดีขึ้น

นางวัลลภากล่าวด้วยว่า และเพื่อเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย บริษัทยังเดินหน้าเสริมพอร์ตโฟลิโอธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง โดยได้ฤกษ์เปิดให้บริการโรงแรมคอร์ทยาร์ด แมริออท ภูเก็ต ทาวน์ โรงแรมขนาด 248 ห้องพัก บริหารโดยแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

โดยโรงแรมแห่งนี้ยังเป็นโรงแรมแห่งแรกภายใต้แบรนด์ “คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท” บนเกาะภูเก็ต สอดคล้องกับกลยุทธ์พัฒนาธุรกิจของ AWC ที่มุ่งสร้างเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้ภูเก็ต เป็นจุดหมายปลายทางของโลก และพัฒนาภาพรวมของธุรกิจการบริการและการท่องเที่ยวในอนาคต รวมถึงส่งเสริมความเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไปในภาพรวม

“เรามุ่งมั่นที่จะช่วยขับเคลื่อนประเทศและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย โดยพร้อมต้อนรับนักเดินทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสู่กลุ่มโรงแรมในเครือทั้ง 18 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใน 6 เมืองท่องเที่ยว อย่างกรุงเทพฯ กระบี่ หัวหิน ภูเก็ต เชียงใหม่ และเกาะสมุย รวมห้องพักกว่า 4,941 ห้อง ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน SHA+”


“และมาตรฐานของเชนบริหารโรงแรมระดับโลกที่ให้ความสำคัญและเข้มงวดในเรื่องความสะอาด สุขอนามัย และความปลอดภัยของแขกผู้มาใช้บริการ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวยุคใหม่อย่างครบวงจร” นางวัลลภากล่าว