“ไต้หวัน” หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทย ไต่อันดับการแข่งขันสู้กับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในสนามแข่งด้านการท่องเที่ยวแถบเอเชียตอนเหนือไปเรียบร้อยแล้ว
“ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสบินลัดฟ้ากับ “การบินไทย” ร่วมงานเลี้ยงแนะนำการบินไทยนำเครื่องบินใหม่ล่าสุด โบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ ทำการบินสู่ไทเป พร้อมสำรวจบรรยากาศแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็นตึก 101 ศาลเจ้าหลงซาน อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ก และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกู้กง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
“วิวัฒน์ ปิยะวิโรจน์” รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) บอกว่า เนื่องจากปี 2561 นี้รัฐบาลได้ประกาศให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย (ไทยแลนด์ ทัวริซึ่ม เยียร์) การบินไทยจึงวางเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือนักท่องเที่ยวจากภูมิภาค “เอเชียเหนือ” ซึ่งเป็นตลาดการบินที่มีความร้อนแรงสูง
โดยนอกจากเส้นทางสู่ “ญี่ปุ่น” และ “เกาหลีใต้” ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว พบว่า “ไต้หวัน” เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพสูง หลังจากทางรัฐบาลไต้หวันวางยุทธศาสตร์สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยประกาศยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวไทย มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 และล่าสุดได้กำหนดให้ใช้ไปอีกจนถึง 31 กรกฎาคม 2561
หลังจากไต้หวันได้ประกาศยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวไทย ส่งผลให้ “ไทเป” เป็นหนึ่งในตลาดที่มีศักยภาพของการบินไทย โดยได้เพิ่มเที่ยวบินเส้นทางไป-กลับ “กรุงเทพฯ-ไทเป” อีก 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จากเดิม 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวมเป็น 20 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมา
โดยการบินไทยได้นำเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีความทันสมัยมาทำการบินเส้นทางดังกล่าว ซึ่งได้เริ่มทำการบินเที่ยวบินแรกจากกรุงเทพฯสู่ไทเป โดยเที่ยวบิน TG632 และเที่ยวบินแรกจากไทเปสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบิน TG633 ในวันดังกล่าว
“ตลอดปีนี้จนถึงปี 2561 ถือเป็นปีที่ทั้งการบินไทย และสายการบินลูกอย่างไทยสมายล์ ลงมาเล่นตลาดไต้หวันอย่างจริงจัง” วิวัฒน์กล่าว
พร้อมบอกด้วยว่า หลังจากสายการบินลูกอย่างไทยสมายล์ได้เปิดเส้นทางบินใหม่ “กรุงเทพฯ-เกาสง” ไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางบินที่สำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ของการบินไทยและไทยสมายล์ที่ร่วมกันขยายการเติบโต
นอกจากนี้ การบินไทยยังได้ลงนามความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับบริษัท ไต้หวัน ไฮ สปีด เรล (HSR) ให้ผู้โดยสารของการบินไทยซึ่งเดินทางจากจุดบินไทเป เชื่อมต่อกับไทยสมายล์ที่เกาสง ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ตั้งอยู่ทางตอนใต้ รวมถึงเมืองต่าง ๆ ภายในประเทศไต้หวัน โดยรถไฟความเร็วสูง ในแพ็กเกจพ่วงราคาพิเศษทำให้นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการการบินไทยและไทยสมายล์ สามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย
และนอกจาก 2 เส้นทางบินจากกรุงเทพฯสู่ไทเปและเกาสงแล้ว การบินไทยยังมีแผนจะเพิ่มอีก 1 เส้นทางบินใหม่ คือ “เชียงใหม่-ไทเป” เพื่อกระจายนักท่องเที่ยวไต้หวันไปยังภาคเหนือของไทย หลังเห็นกระแสการเดินทางของชาวไต้หวันสนใจไปเที่ยวเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก
ขณะที่ “วิชญ์ กิจจาทร” ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไต้หวัน บริษัทการบินไทย เสริมว่า การนำเครื่องบินลำใหม่และรุ่นใหม่ล่าสุดในฝูงบินของการบินไทยมาให้บริการเส้นทางกรุงเทพฯ-ไทเป นั้น เป็นการเพิ่มศักยภาพและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในตลาดไต้หวัน ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง
ทั้งนี้ เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวไต้หวันเดินทางมาไทย มีจำนวนกว่า 5.6 แสนคนต่อปี และเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยไปไต้หวัน มีจำนวนกว่า 1.9 แสนคนต่อปี โดยมีการคาดการณ์ว่าในภาพรวมปี 2561 จะมียอดนักท่องเที่ยวไทยไปไต้หวันขยายตัวอีกไม่ต่ำกว่า 50%
สำหรับความนิยมต่อเที่ยวบินของการบินไทยในเส้นทางจากกรุงเทพฯไปไต้หวันนั้น พบว่ามีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี 2558-2559 ทำให้มีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิน แฟ็กเตอร์) เพิ่มขึ้นจาก 73.8% เป็น 76.8% และเพิ่มขึ้นเป็น 85.6% ในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2560 โดยปัจจุบันเส้นทางบินของการบินไทยมีผู้โดยสารชาวไต้หวัน 65% ส่วนชาวไทย 25% และที่เหลือเป็นตลาดอื่น ๆ
นับเป็นการรุกตลาดเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดเส้นทางบินไป “ไต้หวัน” ท่ามกลางการแข่งกับสายการบินอื่น ๆ ทั้งที่เป็นฟูลเซอร์วิสและโลว์คอสต์ แอร์ไลน์ ของการบินไทยนับจากนี้…
