ไมเนอร์ฯ ร้องรัฐ เร่งกลับมาใช้ Test & Go – แซนด์บอกซ์ ดึงต่างชาติ

นายใหญ่ไมเนอร์ ฯ ร่อนจดหมายร้องรัฐบาลยกเลิกจำกัดชั่วโมงให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สำหรับร้านอาหารที่ได้มาตรฐาน SHA Plus พร้อมเร่งกลับมาใช้นโยบาย Test & Go-Sandbox

วันที่ 12 มกราคม 2565 นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารโรงแรมรายใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ส่งจดหมายเรื่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปพร้อมกับการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

โดยขอแสดงความสนับสนุนต่อดุลยพินิจของฝ่ายบริหารในการใช้นโยบายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสมดุลระหว่างการบริหารจัดการทางด้านสาธารณสุขและการประคับประคองเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน

โดยมองว่าโอมิครอนจะก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงน้อยกว่า ซึ่งส่งผลให้อัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิตลดลงตามสัดส่วนไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนที่ได้รับวัคซีนแล้ว ซึ่งอัตราการเสียชีวิตจากสายพันธุ์นี้ต่ำกว่าการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์และจากการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่เสียอีก

ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีจัดการกับสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม การพยายามลดอัตราการแพร่ระบาดสามารถทำได้ผ่านการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม รวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้เพิ่มมากขึ้นโดยเร็ว การเว้นระยะห่างทางสังคมและการใส่หน้ากาก

ทั้งนี้ จากความเห็นของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมไทย และองค์การอนามัยโลกต่างเชื่อมั่นว่า ในเวลานี้มาตรการล็อกดาวน์เพิ่มเติมไม่ใช่คำตอบของการควบคุมการระบาด แต่การล็อกดาวน์จะส่งผลเสียต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนและทำให้เกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกข้อบังคับเกี่ยวกับการจำกัดชั่วโมงการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับร้านอาหารที่ได้รับมาตรฐานรับรองความปลอดภัยด้านสุขอนามัย SHA Plus

โดยเราสามารถส่งเสริมให้มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างมีความรับผิดชอบและอยู่ในกรอบวิธีการปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งสิ่งนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศอย่างแน่นอน

อีกทั้งหลักปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามายังประเทศไทย ควรได้รับการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยเช่นกัน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นแล้วว่า การปิดประเทศอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการแพร่เชื้อในประเทศของสายพันธุ์โอมิครอนได้เริ่มขึ้นแล้ว องค์การอนามัยโลกลงความเห็นว่าการปิดพรมแดนถือเป็นการกระทำแบบด่วนตัดสินใจโดยปราศจากเหตุผลและหลักการสนับสนุนอย่างพอเพียง และยังไม่ก่อให้เกิดผลที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้สหราชอาณาจักรจึงได้ประกาศยกเลิกแผนการปิดประเทศอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่การระบาดของโอมิครอนยังดำเนินต่อไป และอีกหลายประเทศในยุโรป ตะวันออกกลาง รวมถึงสหรัฐอเมริกา ก็ได้ทยอยผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเดินทางแล้วด้วยเช่นกัน

ซึ่งประเทศไทยเองก็ควรจะปรับเปลี่ยนข้อปฏิบัติให้เหมาะสม และกลับเข้าสู่การเปิดประเทศแบบที่เคยเป็นก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ Thailand Pass ซึ่งเป็นระบบการลงทะเบียนเพื่อขอรับการอนุมัติเข้าประเทศล่วงหน้า รวมถึงข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำประกันและการจองที่พักล่วงหน้ายังก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบมากกว่าเชิงบวก เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ มาตรการเหล่านี้ล้วนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

“ผมแนะนำว่าประเทศไทยควรยึดตามหลักปฏิบัติที่ใช้กันในหลายๆ ประเทศ รวมถึงสายการบินต่างๆ เช่น การขอหลักฐานการฉีดวัคซีน และผลตรวจโควิด-19 เป็นต้น เราควรเร่งกลับมาใช้นโยบาย Test & Go หรือโครงการ Sandbox และหากพบนักท่องเที่ยวที่มีผลตรวจเป็นบวก ก็สามารถอนุญาตให้เขาเหล่านั้นกักตัวเองได้ภายในโรงแรม

สำหรับโครงการ Sandbox การเพิ่มจังหวัดกระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานี เข้าไปอยู่ในโครงการ ถือเป็นการดำเนินการในทิศทางที่ดี ผมขอสนับสนุนให้รัฐบาลขยายเครือข่ายของโครงการให้ครอบคลุมจังหวัดและพื้นที่ในแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เพิ่มเติมต่อไป” นายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็คกล่าว

และว่า ไมเนอร์ฯ เป็นส่วนหนึ่งของวงการธุรกิจพร้อมจะให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐเพื่อฟื้นฟูและสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถก้าวผ่านการระบาดในระลอกใหม่นี้ไปได้ โดยมั่นใจว่าด้วยมาตรการที่เหมาะสมและมีความสมดุล จะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจและธุรกิจให้ฟื้นตัวต่อไปได้ ในขณะเดียวกันก็ค่อยๆ ปรับตัวและเรียนรู้ที่จะหาวิธีอยู่กับไวรัสนี้

ประธานกรรมการบริษัทไมเนอร์ฯ กล่าวเพิ่มด้วยว่า จดหมายดังกล่าวบริษัทฯ ได้ส่งสำเนาถึงอีกหลายหน่วยงาน อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พลเอก สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติ

รวมถึงนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายกลินท์ สารสิน ประธานอาวุโส หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย และนายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต

ก่อนอื่นผมใคร่ขอแสดงความชื่นชมท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอีกครั้งหนึ่ง ที่สามารถควบคุมและจัดการการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และนับเป็นความโชคดีของประเทศที่ระบบสาธารณสุขของเรา (ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล) ได้ยกระดับมาตรฐานการดูแล จนสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่นานาประเทศ ผมจึงอยากใคร่ขอแสดงความสนับสนุนต่อดุลยพินิจของฝ่ายบริหาร ในการใช้นโยบายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสมดุลระหว่างการบริหารจัดการทางด้านสาธารณสุขและการประคับประคองเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน

ขอแสดงความนับถือ

วิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค
ประธานกรรมการ
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)