สมาคมโรงแรมมึนตึ๊บ ! ยันธุรกิจไม่มีเงินรายได้จ่ายภาษีที่ดิน

โรงแรม.
่PHOTO : PIXABAY (ภาพประกอบข่าวเท่านั้น)

สมาคมโรงแรมโอดธุรกิจโรงแรมกระทบหนัก ไม่มีรายได้มา 2 ปีเต็ม รายได้ทั้งระบบหายไปกว่า 90% ไม่มีเงินจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามนโยบายรัฐแน่นอน วอนพิจารณาเป็นภาษีเฉพาะกิจ-ยืดเวลาจับเก็บอีก 2 ปี

วันที่ 19 มกราคม 2565 จากกรณที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังไม่มีแนวทางขยายเวลาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไปอีก หลับงจากที่ลดไปให้แล้วในช่วง 2 ปีก่อนหน้า โดยได้เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเต็มอัตราที่ 100% เหมือนเดิมในปีนี้

นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ประเด็นนี้ธุรกิจโรงแรมคงรับไม่ไหว และไม่มีเงินรายได้ที่จะนำมาจ่ายแน่นอน เนื่องจากโรงแรมเป็นธุรกิจที่ไม่มีรายได้เข้ามา 2 ปีเต็ม ๆ รายได้ทั้งระบบหายไปถึงประมาณ 93% ที่สำคัญ หลักการคิดอัตราการจ่ายภาษีนั้นรัฐบาลประเมินตามมูลค่าที่ดินและสินทรัพย์ ไมได้ประเมินตามเกณฑ์ของรายได้ ทำให้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกลายเป็นต้นทุนก้อนใหญ่ของธุรกิจโรงแรม เพราะโรงแรมเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าสินทรัพย์สูงหากเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่น

“สมาคมโรงแรมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะเก็บได้อย่างไร พวกเราจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย เพราะทุกคนที่กลับมาเปิดให้บริการในตอนนี้ส่วนใหญ่มีรายได้เข้ามาไม่เกิน 30% เกือบทั้งหมดยังขาดทุน ขณะที่ค่าบริหารจัดการต่าง ๆ ก็ปรับราคาเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าวัตถุดิบ ค่าแรง และอื่น ๆ” นางมาริสากล่าว

และว่า ที่สำคัญด้วยสถานการณ์แบบนี้ทุกค่ายก็ยังคงเล่นกลยุทธ์ราคาเพื่อดึงกระแสเงินวสดเชข้ามาหมุนเวียน ซึ่งสะท้อนว่าแม้ว่าจะได้อัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้น แต่ในมุมของรายได้นั้นมั่นใจว่าภายในปีนี้จะยังคงไม่กลับมา

นางมาริสากล่าวด้วยว่า ประเด็นดังกล่าวนี้สมาคมโรงแรมกำลังรวบรวมข้อมูลและข้อเสนอไปยังรัฐบาลผ่านทางสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และสภาหอการค้าไทย เพื่อขอให้พิจารณาหลักเกณฑ์การจัดเก็บสำหรับธุรกิจโรงแรมเป็นการเฉพาะ และผ่อนปรนและยืดเวลาการจัดเก็บอกไปอย่างน้อย 2 ปี เพื่อประเมินสถานการณ์ของไวรัสโควิดและการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกครั้ง

“ต้องบอกว่า 100% ของผู้ประกอบการโรงแรมปีนี้ไม่มีใครมีกำไรแน่นอน และกระแสเงินสดที่เข้ามาเราก็ต้องเอาไปจ่ายเป็นค่าเงินเดือนพนักงาน ค่าไฟ ค่าน้ำ ต้นทุนบริหารอื่น ๆ รวมถึงดอกเบี้ยธนาคาร ฉะนั้นสำหรับธุรกิจโรงแรมรัฐควรพิจารณากำหนดอัตราการจัดเก็บแยกตากธุรกิจอื่น หรือเป็นอัตราเฉพาะกิจ ถ้ายังยืนยันว่าจะเก็บตามอัตราที่ประกาศไปโรงแรมตายหมด” นางมาริสากล่าว