จับเทรนด์กัญชา: ผุดแพ็กเกจ “ทริปสายเขียว” เวิร์กช็อป-ชิมกัญชาจากชุมชน

บริษัททัวร์จัดแพ็กเกจนำเสนอ “ทริปสายเขียว” เวิร์กช็อปกัญชา-ท่องเที่ยวชุมชน ตอบโจทย์เทรนด์กัญชา-เที่ยวท้องถิ่น โปรแกรมปรับเปลี่ยนได้ตามใจลูกค้า เตรียมเจาะตลาดนักท่องเที่ยวเอเชีย ด้านอภัยภูเบศรชี้มีลูกค้าเข้าใช้บริการ Wellness แน่น อนาคตเตรียมให้ความรู้เรื่องกัญชา-กัญชงมากขึ้น

วันที่ 24 มกราคม 2565 นางสาวอาภาทิพ เหรียญเจริญ ผู้บริหารบริษัท ไอ ที ซี บางกอก จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสการท่องเที่ยวชุมชนค่อนข้างได้รับความนิยม เช่นเดียวกับกระแสกัญชา-กัญชง การนำทั้งสองกระแสมาผนวกเข้าด้วยกัน แล้วสร้างสรรค์แพ็กเกจทัวร์เพื่อนำเสนอแก่ลูกค้าที่มีความสนใจด้านกัญชา

โดยบริษัทได้ร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนกัญชาท่าบุญมี ประชาร่วมใจ จัดทำโปรแกรมทัวร์เชิงกัญชาขึ้น โดยชุมชนดังกล่าวมีจุดเด่น คือ ทางชุมชนมีการประสานงานกับชุมชนรอบข้าง ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถร่วมเวิร์กช็อปกัญชา เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของชุมชน และยังได้ไปเยือนสถานที่สำคัญโดยรอบ ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความรู้และความสนุกสนานไปพร้อมกัน

ส่วนตัวอย่าง “แพ็กเกจทัวร์สายเขียว” ของบริษัทมีดังนี้

– Package P3 (2 วัน 1 คืน) : Pattaya Sheep Farm, Art in Paradise Pattaya, สวนกัญชาท่าบุญมี, อ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทร, วัดหลวงพี่แซม, ช็อปปิ้งพิพิธภัณฑ์จักสานที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอพนัสนิคม ราคา 3,200 บาทต่อคน (เดินทางขั้นต่ำ 8 คน)

– Package P6 (2 วัน 1 คืน) : สวนกัญชาท่าบุญมี, อ่างเก็บน้ำคลองหลวง รัชชโลทร, วัดหลวงพี่แซม, ช็อปปิ้งพิพิธภัณฑ์จักสานที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอพนัสนิคม, ทานอาหารเย็นและพักที่โรงแรม Best Western Premier Bayphere Pattaya และสวนนงนุชพัทยา ราคา 4,200 บาทต่อคน (เดินทางขั้นต่ำ 8 คน) ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์ 0-2832-0777

นางสาวอาภาทิพกล่าวต่อว่า ปัจจุบันทางบริษัทตั้งเป้าเจาะตลาดนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม เนื่องจากโปรแกรมทัวร์มีความยืดหยุ่น สามารถปรับให้เข้ากับนักเดินทางทั้งกลุ่มครอบครัว วัยรุ่น หรือกลุ่มองค์กร โดยใช้กัญชาเป็นตัวชูโรง และสามารถเพิ่ม-ลด สถานที่ท่องเที่ยวหรือกิจกรรมในแพ็กเกจทัวร์ได้ตามความต้องการของลูกค้า

นอกจากนี้ ในอนาคตจะมีการเจาะตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งมีตลาดที่น่าสนใจคือ กลุ่มประเทศเอเชีย โดยบริษัทจะมีการจัดทำโปรแกรมทัวร์เป็นภาษาอื่น ๆ เช่น ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ

สำหรับการสนับสนุนจากภาครัฐ นางสาวอาภาทิพกล่าวว่า ปัจจุบันชาวไทยมีการรับรู้เรื่องเกี่ยวกับกัญชาบ้างแล้ว แต่หากภาครัฐต้องการให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเชิงกัญชามากขึ้น ตนจึงอยากขอความร่วมมือทาง ททท. ที่มีสำนักงานอยู่แต่ละภูมิภาคทั่วโลก ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเกี่ยวกับกัญชา เช่น อาจออกจดหมายข่าวนำเสนอข้อมูลแก่ Travel agents ในต่างประเทศ หรือโฆษณาผ่านช่องทางออนไลน์ของ ททท. ในต่างประเทศ

ส่วนด้าน Wellness กับผลิตภัณฑ์จากกัญชานั้น พญ.ปนัดดา จรัสรัตนโชติ แพทย์แผนไทยประยุกต์ ประจำอภัยภูเบศร เดย์ สปา กล่าวว่า ปัจจุบันอภัยภูเบศร มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกัญชาอย่างครบวงจร ทั้งอาหาร Wellness และด้านการรักษา และยังพบว่ามีผู้เข้ามาใช้บริการอภัยภูเบศร เดย์ สปา เป็นจำนวนมาก หลายคนเป็นลูกค้าที่เข้ามาซื้อผลิตภัณฑ์ซ้ำ อย่างไรก็ตาม ยังพบว่ามีลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ยังไม่กล้าลองใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา

“ในอนาคตอภัยภูเบศรจะให้ความสำคัญกับการให้ความรู้แก่สาธารณะที่มากขึ้น จัดทำศูนย์การเรียนรู้ รวมถึงผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าได้เข้าถึงและเข้าใจผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับกัญชามากขึ้น” พญ.ปนัดดา กล่าว