“มิชลิน ไกด์บุ๊ก” ปี 2 เล็งเปิด เชียงใหม่-ภูเก็ต

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า จากความร่วมมือกับ “มิชลิน ไกด์” ครั้งนีจะช่วยส่งเสริมอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น ตามเป้าหมายผลักดันไทยเป็น “เมืองหลวงอาหารแห่งเอเชีย”

โดยเฉพาะร้านอาหารริมทาง หรือ “สตรีตฟู้ด” ที่ครั้งนี้มีร้านที่ได้ 1 ดาวมิชลิน ร่วมด้วย 1 ร้านคือ ร้านเจ๊ไฝ สตรีตฟู้ดเจ้าแรกของโลกที่ได้ดาวจากมิชลิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้สิงคโปร์มีร้านอาหารที่ได้มาก่อนแต่อยู่ในศูนย์อาหาร ไม่ได้เป็นสตรีตฟู้ดเหมือนของไทย”นอกจากกระตุ้นรายได้โดยตรงผ่านการใช้จ่ายด้านอาหารแล้ว เรายังมองเรื่องการกระตุ้นให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มสตรีตฟู้ดตื่นตัว เห็นโอกาส เร่งปรับปรุงตัวเองให้มีมาตรฐาน เพื่อเข้ารับการคัดเลือกให้เข้าไปอยู่ในมิชลิน ไกด์ หรือได้รับดาวแสดงมาตรฐานเหมือนอย่างที่ร้านเจ๊ไฝช่วยปูทางมาแล้ว”

สำหรับร้านอาหารไทยที่ได้รับคัดเลือกลงในมิชลิน ไกด์ มีทั้งหมด 98 ร้าน แบ่งเป็น ร้านอาหาร 2 ดาวมิชลิน (ร้านอาหารที่อร่อยเป็นพิเศษ คุ้มค่ากับการขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม) จำนวน 3 ร้าน, ร้าน 1 ดาวมิชลิน (ร้านอาหารที่อร่อยมากเมื่อเทียบกับร้านอาหารประเภทเดียวกัน) จำนวน 14 ร้าน และร้านอาหารรางวัล บิบกูร์มองต์ (รางวัลที่มอบให้กับร้านอาหารที่นำเสนออาหารคุณภาพในราคาคุ้มค่าไม่เกิน 1,000 บาท) จำนวน 35 ร้าน

ขณะเดียวกัน มีการแนะนำร้านอาหารริมทางจำนวน 28 ร้าน ที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ลงในฉบับปฐมฤกษ์นี้ด้วย ซึ่งตรงกับเป้าหมายการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารของ ททท. ที่มุ่งนำเสนอความหลากหลาย และเสน่ห์ของการรับประทานอาหารแบบท้องถิ่นเป็นจุดแข็ง ปัจจุบันมีหลายประเทศต้องการทำ แต่ยังทำได้ไม่เท่าไทย เช่น สิงคโปร์ เป็นต้น

ส่วนกรณีที่ร้านอาหารในไทยยังไม่ได้ 3 ดาวมิชลิน (ร้านที่อร่อยยอดเยี่ยมและโดดเด่น ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง) นั้น ยอมรับว่าเป็นมาตรฐานที่สูง ประกอบกับเป็นการเปิดตัวเป็นปีแรก จึงคิดว่าร้านอาหารส่วนใหญ่คงต้องใช้เวลาเรียนรู้และปรับตัว โดยดูจากร้านที่เคยได้รับมาตรฐานดาวในปีนี้ไปก่อน

“ยุทธศักดิ์” ทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับในปีต่อ ๆ ไปนั้น ทาง ททท.ได้มองถึงการเปิดตัวมิชลิน ไกด์ ในพื้นที่ใหม่ ๆ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้จ่ายและกระจายรายได้ไปในภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ตด้วย