“ไทยแอร์เอเชีย” สุดมั่นใจ รุกเปิดบินต่างประเทศ 18 เส้นทาง

“ไทยแอร์เอเชีย” เดินหน้าเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศรวดเดียว 18 เส้นทาง ใน 7 ประเทศ “มาเลย์-อินโดฯ-สิงคโปร์-เวียดนาม-กัมพูชา-มัลดีฟส์-อินเดีย” ตั้งแต่เมษาฯนี้เป็นต้นไป เผยครึ่งปีหลังเตรียมเปิด “ฮ่องกง-มาเก๊า-จีน-ญี่ปุ่น” อีกระลอก ตั้งเป้าขนผู้โดยสารทั้งปี 12.3 ล้านคน

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ไทยแอร์เอเชียมีความพร้อมเต็มที่ในการขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศ และเพิ่มความถี่เที่ยวบินภายในประเทศ หลังจากกลับมาเปิดเส้นทางบินที่เคยทำการบินในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิดครบแล้ว

โดยในเฟสแรกของแผนการเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศนี้ สายการบินจะทำการบินทั้งหมด 18 เส้นทาง ใน 7 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม, กัมพูชา, มัลดีฟส์ และอินเดีย ตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป โดยมีเหตุผล 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย 1.สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น คนทั่วไปเข้าใจและสามารถอยู่ร่วมกับโควิดได้แล้ว ขณะที่ประเทศต่าง ๆ ก็พร้อมสำหรับเปิดประเทศรับต่างชาติโดยไม่กักตัว

2.สถานการณ์ราคาน้ำมันโลกเริ่มคลี่คลายและชะลอตัว และเชื่อว่าจะไม่พุ่งสูงไปมากกว่านี้ ขณะเดียวกันสายการบินยังสามารถเก็บค่าธรรมเนียมน้ำมัน (fuel surcharge) ในเส้นทางระหว่างประเทศได้ 3.ไทยแอร์เอเชียเป็นสายการบินที่มีศักยภาพและความพร้อมเต็มที่ ทั้งในส่วนของบุคลากรและเครื่องบิน ประกอบกับมีสภาพคล่องที่ดีขึ้น และ 4.นโยบายเรื่องกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการทำธุรกิจแบบยั่งยืน ธุรกิจอยู่ได้และสามารถให้บริการที่ดี

“เหตุผล 4 ข้อนี้ทำให้เราประเมินว่าถึงเป็นเวลาที่เราจะกลับมาขยายธุรกิจอย่างเต็มที่ และจะทยอยเปิดเส้นทางใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในตลาดที่มีความพร้อม และเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่กักตัว” นายสันติสุขกล่าว

และว่า ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียมีฝูงบินรวม 53 ลำ ในไตรมาสแรกยังมีปริมาณการใช้เครื่องบินประมาณ 20 ลำ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 30 ลำในไตรมาส 2 และคาดว่าจะใช้เครื่องบินครบ 53 ลำภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะทำให้ภาพรวมของธุรกิจในช่วงปลายปีนี้กลับมาได้ใกล้เคียงกับปี 2562 และปรับดีขึ้นได้เท่าปี 2562 ในปี 2566

นายสันติสุขกล่าวว่า นอกจาก 7 ประเทศดังกล่าวแล้ว ในช่วงครึ่งปีหลังนี้สายการบินยังเตรียมพิจารณาเปิดเส้นทางบินสู่ สปป.ลาว, เมียนมา, ฮ่องกง, มาเก๊า และจีน (เมืองทางตอนใต้) รวมถึงญี่ปุ่นเส้นทางกรุงเทพฯ-ฟุกุโอกะ และกรุงเทพฯ-โอกินาวา อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวจะเปิดได้ช้าหรือเร็วนั้นต้องขึ้นอยู่กับมาตรการการเข้าประเทศของประเทศปลายทางด้วย

“การเพิ่มของเส้นทางบินระหว่างประเทศจะทำให้สัดส่วนรายได้ตลาดต่างประเทศของเรากลับมาอยู่ที่ 40-50% และเพิ่มเป็นราว 60% ได้ในปีหน้า”

นายสันติสุขกล่าวต่อไปว่า สำหรับปี 2565 นี้ สายการบินตั้งเป้ามีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 12.3 ล้านคน โดยมีอัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย (load factor) อยู่ที่ราว 78% มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน (aircraft utilization) อยู่ที่ราว 10.5 ชั่วโมงต่อวัน จากปัจจุบันที่ราว 8-9 ชั่วโมงต่อวัน

“เวลานี้เราผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เงินทุนเสริมสภาพคล่องก็เข้ามาตามแผนแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไปรายได้เราจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มกลับมาทำกำไรได้ภายในปีหน้านี้” นายสันติสุขกล่าว