ดุสิตธานีพร้อมรับนักท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ 1 พ.ค.

ดุสิตธานี

กลุ่มดุสิตธานีพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ 1 พฤษภาคมนี้ มั่นใจ “หัวหิน” เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในใจนักเดินทาง เผยหลังใช้เวลาปรับโฉมกว่า 18 เดือน ขณะนี้ “ดุสิตธานี หัวหิน” พร้อมให้บริการแล้ว

วันที่ 28 เมษายน 2565 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เปิดเผยว่า กลุ่มดุสิตธานีมีความยินดีและมีความพร้อมสำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย หลังจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้

ศุภจี สุธรรมพันธุ์
ศุภจี สุธรรมพันธุ์

ซึ่งในช่วงที่การเดินทางยังไม่สามารถทำได้อย่างสะดวกจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กลุ่มดุสิตธานีได้ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวปรับปรุงโรงแรมในกลุ่มอย่างต่อเนื่อง

โดยหนึ่งในหลาย ๆ โครงการคือ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน ที่เป็นโรงแรมที่เปิดให้บริการมายาวนานที่สุด เนื่องจากเชื่อมั่นว่า ชายหาดหัวหินจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนึกถึงเป็นลำดับแรก ๆ หลังจากเดินทางได้มากขึ้น

“ดุสิตธานี หัวหิน มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ทำเลที่ตั้งติดชายหาดที่สวยงาม และชุมชนที่นี่ก็มีความเข้มแข็ง ทำให้หัวหินเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบและเป็นที่นิยมมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเราใช้เวลากว่า 18 เดือนในการปรับปรุงโรงแรมที่เรียกว่าเป็นโฉมใหม่จริง ๆ ทั้งในส่วนของห้องพัก และพื้นที่โดยรอบ เช่น สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ รวมถึงเทวารัณย์สปาที่สงบ เพิ่มความเป็นส่วนตัว และการเปิดฟาร์มออร์แกนิก” นางศุภจีกล่าว

และว่า ส่วนไฮไลต์สำคัญที่พลาดไม่ได้สำหรับโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน คือ การเปลี่ยนแปลงร้านอาหารริมทะเลบาร์แอนด์กริลล์ เป็นห้องอาหาร “Nómada” (โนมาดา) ซึ่งเป็นห้องอาหารที่เปิดโล่งรับลมทะเล และเน้นเสิร์ฟรสชาติ ความสดใหม่จากทะเล พร้อมนำเสนอเทคนิคการปิ้ง ย่าง เผาโดยเชฟชื่อดังจากแถบอเมริกาใต้ ซึ่งมั่นใจว่าลูกค้าจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของอาหารที่หลากหลายขึ้น

ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรมของอาหาร รวมถึงการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันอีกด้วย

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของโรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จะสร้างผลลัพธ์ที่เห็นอย่างชัดเจน 3 ด้าน ได้แก่ 1.ห้องพักในโรงแรมและพื้นที่ใช้งาน 2.อาหารและเครื่องดื่ม และ 3.กิจกรรมต่าง ๆ ที่มีความหลากหลาย ซึ่งทั้งหมดจะตอบโจทย์ที่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าทุกเจเนอเรชั่นที่เข้ามาใช้บริการของโรงแรมสามารถสร้างประสบการณ์ร่วมกันได้มีความเชื่อมต่อกัน

ดุสิตธานี

โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวสอดคล้องการปรับวิถีการให้บริการอันเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มดุสิตธานี หรือ Dusit Graciousness ที่ให้ความสำคัญกับ 4 แกนหลัก คือ บริการที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า (Service) บริการที่ตอบสนองการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาวะที่ดีทั้งกายและใจ (Well-being) บริการที่เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชนและคนรอบข้าง (Locality) และบริการที่ยั่งยืน โดยคำนึงถึงสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม (Sustainability)

“ที่ผ่านมาเราเรียนรู้ว่า ความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าในแต่ละเจเนอเรชั่นแตกต่างกัน แต่เมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยวด้วยกัน หรือต้องแชร์ประสบการณ์ในการเดินทางด้วยกัน จะทำอย่างไรให้ทั้งที่พัก อาหาร รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน แต่สามารถเชื่อมต่อทุกเจเนอเรชั่นให้ถึงกันได้ ซึ่ง ณ วันนี้ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน กำลังทำให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น ภายใต้ความมุ่งมั่นว่า เราจะสร้างประสบการณ์ที่ยั่งยืนและความทรงจำที่ดีให้กับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาใช้บริการ” นางศุภจีกล่าว

ดุสิตธานีดุสิตธานีดุสิตธานี