ในเดือนกันยายน 2562 เชลล์ ประเทศไทย ก้าวเข้าสู่ปีที่ 128 สำหรับองค์กรแล้ว ถือว่าเป็นการเติบโต ก้าวหน้า และผ่านการปรับแนวทางธุรกิจเพื่อเคียงข้างสังคมไทยมาอย่างยาวนาน หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของเชลล์และเป็นแนวคิดที่บริษัทยึดมั่นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา คือ แนวคิดของการ “เติมสุขให้ทุกชีวิต” อาจจะใช้คำพูดที่ไม่เหมือนกันในช่วงร้อยกว่าปี แต่จริงๆไอเดียก็คือ “Make Life’s Journeys Better” ซึ่งมีความหมายว่าในแง่ของการดำเนินธุรกิจ รูปแบบของธุรกิจ และวัตถุประสงค์ของการดำรงอยู่ขององค์กร ย่อมมิใช่เพื่อผลกำไรแต่เพียงอย่างเดียว สิ่งที่เชลล์ ประเทศไทยยึดมั่นเสมอคือ การส่งมอบพลังงานที่หลากหลาย ความเอาใจใส่ บนความซื่อสัตย์ และการให้เกียรติกัน เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้คน เพื่อสังคมที่มีคุณภาพ ตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืน
เมื่อมองไปข้างหน้า จะเห็นว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก อย่างรวดเร็ว และมีความผันผวน โดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านของพลังงาน อันเนื่องมาจากจำนวนประชากรในโลกนี้ที่จะเพิ่มขึ้นอีกมากจนอาจถึงหมื่นล้านคนในเวลาอีกไม่นาน ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนก็ต้องใช้พลังงานมากขึ้น และยังมีเรื่องของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้น ซึ่งปรับเปลี่ยนชีวิตคนอย่างมีนัยสำคัญ
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
การผลักดันความร่วมมือสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืน เป็นโจทย์ของเชลล์ ประเทศไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมสร้างสังคมที่ยั่งยืนและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานในระดับประเทศ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เชลล์ได้ส่งเสริมความร่วมมือ อาทิ ล่าสุดได้จัดงานสัมมนา 2019 Shell Forum เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงานระดับโลกและระดมความคิด รวมถึงร่วมกันหาแนวทางในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและยั่งยืนในอนาคตสำหรับประเทศไทย
อัษฎา หะรินสุต ประธานกรรมการ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “เราไม่เพียงต้องหาพลังงานที่เพียงพอกับความต้องการในขณะเดียวกันต้องมองหาระบบพลังงานที่ลดการปล่อยคาร์บอน ภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน เรามุ่งสู่การมีพลังงานสะอาด เพิ่มประสิทธิภาพ และดีต่อสิ่งแวดล้อม มีการคาดการณ์ว่าภายในปี ค.ศ.2050 ทั่วโลกจะมีประชากรที่เพิ่มขึ้นมากถึง 9.8 พันล้านคน และกว่า 3 ใน 4 ของประชากรจะอยู่ในเมือง ปัจจุบันไทยมีประชากรที่อยู่ในเมืองคิดเป็นสัดส่วน 56% จากข้อมูลล่าสุดพบว่า อัตราประชากรในเมืองก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี ค.ศ. 2019 อัตราส่วนของประชากรในเมืองเพิ่มสูงขึ้นถึง 10% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับทศวรรษที่ผ่านมา ปฏิเสธไม่ได้ว่าแนวโน้มดังกล่าวส่งผลกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นและถือเป็นปัจจัยที่ท้าทายของการพัฒนาพลังงานในระดับโลกรวมถึงประเทศไทย”
เชลล์ตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทพลังงานในการเข้ามาช่วยสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตที่ดี และเชื่อว่าทุกคนมีบทบาทในการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ซึ่งการมีพลังงานเพื่อวันนี้และอนาคตนั้นต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ทางเลือกของผู้บริโภค เทคโนโลยี ไปจนถึงนโยบายภาครัฐ ในการช่วยลดคาร์บอนในระดับองค์รวมเชิงเศรษฐกิจ สอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจและเจตนารมณ์ของเชลล์ในการ “เติมสุขให้ทุกชีวิต”
ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันและอนาคตต้องพึ่งพาพลังงานเสมอไม่ว่าเราจะอาศัยอยู่ที่ไหนก็ตาม และสังคมจะต้องส่งมอบพลังงานมากขึ้นเพื่อรองรับจำนวนการเติบโตของประชากร ในระหว่างที่หาทางลดก๊าซเรือนกระจก ความมุ่งมั่นของเชลล์ ประเทศไทย คือ ร่วมกับทุกภาคส่วนในการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดของไทยในอนาคต ซึ่งควรคำนึงถึงปัจจัยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม คำนึงความต้องการที่หลากหลายของคนทุกกลุ่มในสังคม สนับสนุนนโยบายพลังงาน 4.0 ของภาครัฐ ให้ทุกคนเข้าถึงระบบพลังงานใหม่อย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาว
และนั่นคือภารกิจสำคัญของการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนของสังคม ในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านพลังงานเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน พลังงานที่มั่นคง และความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คนในประเทศไทยต่อไป