ไอซีเอ็นเคาะราคาหุ้นจอง 1.84 บาทต่อหุ้น เสนอขายประชาชน 108 ล้านหุ้น ที่เหลือขายกรรมการ-ผู้บริหาร-พนักงานบริษัท คาดระดมทุนได้ 220 ล้านบาท ใช้ขยายกิจการ หนุนรับงานประมูลโครงการใหญ่ เปิดจองวันที่ 8 และ 11-12 ก.ย. พร้อมคาดเข้าเทรดได้ช่วงวันที่ 15 ก.ย.60
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บมจ.อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์ค (ICN) เปิดเผยว่า หุ้น ICN กำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่หุ้นละ 1.84 บาท จากมูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท โดยจำนวนหุ้นที่ IPO ประมาณ 120 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 26.67% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ทั้งนี้ จำนวนหุ้น ICN จะแบ่งเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปจำนวน 108 ล้านหุ้น และส่วนที่เหลือ 12 ล้านหุ้น เสนอขายต่อคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ICN โดยจะเปิดให้จองระหว่างวันที่ 8 และ 11-12 กันยายน 2560 โดยมีผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเข้าร่วมอีก 4 แห่ง ได้แก่ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย), บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) และบล.เอเซีย พลัส ซึ่งคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในช่วงวันที่ 15 กันยายน 2560
“ราคา IPO ที่ 1.80 บาท ถือว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เราชื่อมั่นว่านักลงทุนจะได้มีส่วนลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง” นายสมภพกล่าว
ด้านนายมนชัย มณีไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) หรือ ICN ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาวางระบบสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร รวมทั้งยังจัดจำหน่ายอุปกรณ์เพื่อใช้ทดแทน และให้บริการบำรุงรักษาโครงข่ายระบบสื่อสารโทรคมนาคม กล่าวว่า ผลประกอบการของ ICN เติบโตอย่างโดดเด่นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2557-2559 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 0.33 ล้านบาท, 5.47 ล้านบาท และ 27.11 ล้านบาท ซึ่งเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 (ม.ค.-มิ.ย.) บริษัทฯ มีรายได้รวม 377.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.02% จากงวดเดียวกันปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 23.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 318.23% จากงวดเดียวกันปีก่อน
สำหรับทิศทางด้านรายได้และกำไรสุทธิในปี 2560 ของบริษัท คาดว่าจะเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีรายได้อยู่ที่ 570.96 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.11 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบัน บรัษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่จำนวน 431.70 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ราว 90% ในปีนี้
ทั้งนี้ โครงสร้างรายได้ของบริษัท จะมาจากธุรกิจรับเหมาวางระบบสัดส่วน 42.44% และรายได้จากธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์และบำรุงรักษา 57.37% ของรายได้รวม สวนที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ
นายมนชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวน 220.80 ล้านบาท ซึ่งจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการเข้าประมูลงานโครงการระบบสื่อสารโทรคมนาคม งานก่อสร้างและวางระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ จากอดีตที่บริษัทเคยรับงานขนาดมูลค่าโครงการเฉลี่ยประมาณ 30-40 ล้านบาท
“หลังจากเราระดมทุนดังกล่าวได้ จะทำให้ในอนาคตสามารถรับงานที่มีขนาดโครงการที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มมองโครงการที่มีมูลค่าประมาณ 100-500 ล้านบาท ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเข้ารับงานใหม่ๆ ในอนาคตได้ โดยผู้ถือหุ้นใหญ่เชื่อมั่นว่าธุรกิจจะเติบโตได้ดี จึงแนะให้ถือหุ้นระยะยาว” นายมนชัยกล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ต่อประชาชน บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 225 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 450 ล้านหุ้น โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ จะมีนายมนชัย มณีไพโรจน์ ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 19.42% กลุ่มเลาหสมบูรณ์ถือหุ้น 12.75% และกลุ่มรุ่งเรืองผล 12.75% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว
