สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน นายเอ็มมานูแอล เบนิเยร์ ประธานบริหารของกลุ่มบริษัท แลคตาลิส ของฝรั่งเศส หนึ่งในบริษัทผลิตภัณฑ์นมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ออกมาให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก หลังเกิดเหตุพบนมผงของบริษัทปนเปื้อนเชื้อซาลโมเนลลาตั้งแต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยนายเบนิเยร์ประกาศว่า บริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่เหยื่อนมผงปนเปื้อนดังกล่าว ที่มีการเรียกคืนแล้วใน 83 ประเทศ รวมทั้งสิ้นกว่า 12 ล้านกระป๋อง/กล่อง มีทั้งแบรนด์ Picot, Milumel, Celia และแบรนด์อื่นๆที่เป็นของบริษัท
ข่าวระบุว่า ทางการฝรั่งเศสแจ้งเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมาว่า มีทารกอย่างน้อย 37 รายที่ล้มป่วยในประเทศฝรั่งเศส หลังจากดื่มนมผงของบริษัท แลคตาลิสเข้าไป นอกจากนี้ยังมีทารกที่ล้มป่วยเพราะนมผงปนเปื้อนดังกล่าวในประเทศสเปน 1 ราย และต้องสงสัยอีก 1 รายที่ประเทศกรีซ แต่นายเบนิเยร์กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานพบเด็กล้มป่วยรายใหม่เลยตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา หรือ 1 สัปดาห์หลังจากมีการประกาศเรียกคืนนมผงปนเปื้อน โดยระบุว่า กรณีที่เกิดที่ประเทศสเปนเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ทั้งนี้ บริษัท แลคตาลิส ถูกฟ้องร้องหลายร้อยคดีในฝรั่งเศส ว่ามีเด็กล้มป่วยเนื่องจากเชื้อซาลโมเนลลาหลังจากดื่มนมผงของบริษัทนี้เข้าไป ซึ่งหากติดเชื้อซาลโมเนลลาอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
รอยเตอร์รายงานว่า การเรียกคืนนมผงของแลคตาลิส ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผลิตภัณฑ์ของบริษัทเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากจีนเคยประสบกับปัญหานมผงปนเปื้อนเมลามีนเมื่อปี 2008 และทำให้มีเด็กเสียชีวิต 6 ราย
ที่มา มติชนออนไลน์
