จากการคาดการณ์ของยูโรมอร์นิเตอร์ที่ว่า อุตสาหกรรมความงามของประเทศจีนจะก้าวไปสู่ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2021 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า มีมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ จะแซงตลาดเครื่องสำอาง และสกินแคร์ของสหรัฐที่ใหญ่ที่สุดอยู่ตอนนี้ ไม่แปลกที่บริษัทเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ของฟากยุโรปต่างหาช่องทางมาลงทุนในประเทศจีน
ไม่ต่างจากลอรีอัล ปารีส บริษัทเครื่องสำอางสัญชาติฝรั่งเศส ที่ลงทุนทำวิจัย พัฒนาเครื่องสำอางที่เหมาะกับผิวของคนจีนโดยเฉพาะ เพื่อขยายตลาดมากยิ่งขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
โดยลอรีอัล เป็นบริษัทธุรกิจความงามรายแรกที่ได้เริ่มทำการวิจัย และพัฒนาเครื่องสำอาง และสกินแคร์ให้เหมาะกับผิวของชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นเซรัม ครีมไวเทนนิ่ง คลีนเซอร์ต่างๆ ผ่านเนื้อเยื่อสังเคราะห์ (Reconstructed skin) โดยใช้เซลล์ที่ยังมีชีวิต (living cells) ของผู้ที่บริจาคให้ในการทำการทดลอง โดยร่วมมือกับนักวิทยาศาตร์จาก EpiSkin ของฝรั่งเศส
แซนฟอร์ด บราวน์ รองประธานฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมของลอรีอัลประเทศจีน เปิดเผยว่า ผู้บริโภคชาวจีนเป็นตลาดที่มีดีมานด์สูงมากที่สุดในโลกในการซื้อสินค้าของลอรีอัลทุกประเภท เพราะผู้บริโภคจากจีนแผ่นดินใหญ่หลายรายยินดีที่จะจ่ายเงิน สำหรับสินค้าที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง และสิ่งเหล่านั้นมันต้องถูกออกแบบมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ
ซึ่งลอรีอัลพยายามที่รักษาตลาดแบรนด์เครื่องสำอางให้อยู่อันดับต้นๆในจีน ท่ามกลางการแข่งขันกับแบรนด์ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็น Pechoin และ Chando ที่ในอดีตบริษัทคิดว่าชาวจีนส่วนใหญ่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของยุโรปมากกว่าที่จะใช้ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ท้องถิ่น
ข้อมูลจาก Bank AG เปิดเผยถึงรายได้ของลอรีอัลในจีนในช่วงปี 2555-2560 ว่าโตขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 2.69 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากที่ลอรีอัลสามารถจับเทรนด์ตลาดของจีน และปรับตัวได้อย่างวดเร็ว
และด้วยพื้นฐานของผิวพรรณของผู้บริโภคแตกต่างกันตั้งแต่ผิวหนังชั้นบนสุด ลงไปถึงระดับเซลล์ ผลิตภัณฑ์จากฝั่งยุโรปอาจจะไม่ตอบโจทย์กับฝั่งเอเชียมากนัก ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผิวได้รับความร้อนรังสีอัลตราไวโอเลต ผิวของคนฝั่งยุโรปนั้นก็มักจะเกิดเป็นริ้วรอย แต่ในขณะที่ผิวของชาวจีนนั้นจะไวต่อแสง และผิวเปลี่ยนเม็ดสี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลอรีอัลกระโดดเข้ามาสนใจตลาดจีนอย่างจริงจัง
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดในประเทศจีนนั้นตรงกับฝั่งยุโรปคือ ผลิตภัณฑ์ “Revitalift” เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกระชับ และลดเลือนริ้วรอย ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นที่ต้องการมากขึ้น
อย่างไรก็ตามลอรีอัลปฏิเสธที่จะบอกมูลค่าการลงทุนในการทดสอบ และวิจัยผลิตภัณฑ์สำหรับประเทศจีนโดยเฉพาะ แต่ด้านนักวิเคราะห์ระบุว่า น่าจะเงินจำนวนมหาศาล เพราะประเทศจีนมีประชากรมากที่สุดในโลก รวมถึงความต้องการผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยที่มีมากขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในระดับพรีเมียม
ทั้งนี้หลังจากที่ลอรีอัลไปตั้งศูนย์วิจัยเกี่ยวกับสีผิวในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งได้ทำการทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเนื้อเยื่อสังเคราห์ที่สร้างขึ้นจากเซลล์ที่ยังมีชีวิตที่มีผู้บริจาคให้นั้น ลอรีอัลยังเปิดให้นักวิจัยอื่นได้เข้ามาศึกษา และนำความรู้ไปผลิตให้กับผลิตภัณฑ์แบรนด์อื่นๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย
อย่างไรก็ตามลอรีอัลหวังว่า การสังเคราะห์เนื้อเยื่อในการวิจัยนั้นจะช่วยลดความโหดร้ายจากการทำธุรกิจเครื่องสำอางในประเทศจีน ที่กฎหมายของจีนกำหนดไว้ว่าจะต้องผ่านการทดลองกับสัตว์ในขบวนการสุดท้ายก่อนด้วย ซึ่งบริษัทอุตสาหกรรมเครื่องสำอางยักษ์ไม่ว่าจะเป็นลอรีอัล เอสเต้ ชิเชโด ได้ยกเลิกการทดลองผลิตภัณฑ์ในสัตว์ไปเรียบร้อยแล้ว