สภาผู้แทนมะกันผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว เลี่ยง”กัฟเวิร์นเมนต์ชัตดาวน์”วุฒิฯเดโมแครตกร้าวตีตกแน่

พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ / Aaron P. Bernstein/AFP

สำนักข่าวเอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานว่า สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐอเมริกา ลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อคืนวันที่ 18 มกราคม ก่อนกำหนดเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 19 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดทำการของสำนักงานของรัฐบาลบางส่วนหรือ “กัฟเวิร์นเมนต์ชัตดาวน์” เป็นการส่งต่อให้กับวุฒิสภาที่พรรคเดโมแครตประกาศกร้าวว่าจะสกัดกั้นร่างงบประมาณชั่วคราวนี้

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับนี้ด้วยคะแนน 230-197 เสียง แต่สถานการณ์ดูไม่ค่อยสดใสนักในการจะผ่านการรับรองของวุฒิสภา โดยวุฒิสมาชิกของพรรคเดโมแครตซึ่งต้องการต่อรองในเรื่องการจัดสรรงบประมาณใหม่ และข้อตกลงในเรื่องผู้อพยพ ประกาศกร้าวว่าจะสกัดกั้นร่างกฎหมายชั่วคราวฉบับนี้

นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ทวีตข้อความหลังผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวว่า “สภาผู้แทนราษฎรทำในสิ่งที่ถูกต้อง สำหรับบุรุษและสตรีที่รับใช้ชาติ และสำหรับเด็กอีกนับล้านคนที่ต้องพึ่งพาโครงการประกันสุขภาพ” และเรียกร้องให้วุฒิสมาชิกพรรรคเดโมแครต “ทำในสิ่งที่ถูกต้องสำหรับชาวอเมริกัน”

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กลับสร้างความสับสนให้กับพรรครีพับลิกันที่ตึงเครียดกับการวางยุทธศาสตร์เพื่อหลีกเลี่ยงความอับอายทางการเมืองจากความล้มเหลวในการผ่านร่างงบประมาณ โดยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าววันเดียวกันขณะเดินทางมาที่กระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) ว่าคาดว่าจะเกิดกัฟเวิร์นเมนต์ชัตดาวน์ขึ้น “ค่อนข้างแน่”

ในกรณีที่เกิดกัฟเวิร์นเมนต์ชัตดาวน์ขึ้น เจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐบาลที่ถูกพิจารณาว่าไม่สำคัญจะได้รับคำสั่งให้ไม่ต้องมาทำงานจนกว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณ โดยคนเหล่านี้จะได้รับการจ่ายเงินค่าแรงย้อนหลัง

ทั้งนี้ เหตุการณ์กัฟเวิร์นเมนต์ชัตดาวน์ครั้งหลังๆ เกิดขึ้นเมื่อปี 2538, 2539 และล่าสุดเมื่อปี 2556 ที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องถูกพักงานวันละ 800,000 คน

หน่วยงานหลักๆ ของรัฐบาลอาทิ ทำเนียบขาว สภาคองเกรส กระทรวงต่างประเทศ และเพนตากอน จะเปิดดำเนินกาตามปกติ โดยอาจมีการพักงานเจ้าหน้าที่บางส่วน

ข่าวระบุว่า หากร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับนี้ล้มเหลวที่จะผ่านวุฒิสภา พรรคเดโมแครตจะเป็นฝ่ายถือไพ่เหนือกว่าในการการยืนยันให้มีการจัดทำร่างงบประมาณแบบประณีประนอม ซึ่งรวมถึงการปกป้องกลุ่มผู้อพยพที่เรียกกันว่า “นักล่าฝัน” ซึ่งเข้าสหรัฐมาอย่างผิดกฎหมายตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

 


ที่มา : มติชนออนไลน์