สมเป็นมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งโลก อีลอน มัสก์ ขนาดรูปวันวานไม่หวานแล้ว ยังทำเงินประมูลหลายล้าน
วันที่ 16 กันยายน 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ภาพถ่ายสมัยอดีตหลายภาพของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งโลกชาวอเมริกัน กับเจนนิเฟอร์ กวีนน์ หญิงสาวที่เป็นแฟนเก่า ทำเงินในการประมูลสูงถึง 165,000 ดอลลาร์ หรือราว 6 ล้านบาท
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
บริษัท อาร์อาร์ ออกชัน (RR Auction) ในนครบอสตัน สหรัฐ ระบุว่า ภาพถ่ายชุดนี้สาธารณชนไม่เคยเห็นมาก่อน
ภาพหนึ่งที่ถ่ายในช่วงเวลานี้ เป็นภาพเดี่ยวของมัสก์ ซึ่งมหาเศรษฐีอเมริกันเพิ่งเปลี่ยนมาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ในทวิตเตอร์
สาวกวีนน์กล่าวกับสื่อบอสตันโกลบ ว่าอ่านรายละเอียดของการประมูลว่า มัสก์รู้แล้วว่าเธอมีสิ่งของที่ไปไกลกว่าการเป็นของส่วนตัว ดังนั้น จึงนำไปขายได้ ไม่ว่าภาพถ่ายทีเผลอ การ์ดวันเกิดที่ได้จากมัสก์ และสร้อยที่มัสก์ให้เธอ
มัสก์และกวีนน์คบหากันช่วงปี 1994-1995 (พ.ศ. 2537-2538) ตอนที่ทั้งสองอยู่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย จากนั้นเลิกกัน ตอนที่มัสก์เรียนจบและย้ายไปอยู่รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมัสก์ไม่ได้ โทร.หาหญิงสาวอีก เพราะรู้สึกว่าเสียเวลา
“เราเลิกกันก่อนที่เขาจะเริ่มออกไปผงาดในโลก” กวีนน์กล่าว
สร้อยคอทองคำที่มัสก์ให้กวีนน์ช่วงปลายปี 1994 ทำเงินในการประมูลได้ 51,000 ดอลลาร์ หรือ 1.88 ล้านบาท ส่วนภาพของมัสก์และกวีนน์ รวมถึงคนรู้จักอีก 4 คน เมื่อปี 1995 ทำเงินประมูลได้ถึง 42,000 ดอลลาร์ หรือ 1.55 ล้านบาท ขณะที่การ์ดอวยพรวันเกิดทำได้ 17,000 ดอลลาร์ หรือเกือบ 6.3 แสนบาท
ส่วนภาพถ่ายทีเผลออื่น ๆ อีก 18 ภาพ ขายแยกเดี่ยวไปได้ บางภาพถ่ายที่นอร์ทโพรวิเดนซ์ รัฐโรดไอส์แลนด์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของกวีนน์ ปัจจุบันหญิงสาวอาศัยอยู่เซาท์แคลิฟอร์เนีย และตั้งใจจะนำเงินที่ได้จากการประมูลให้หลานชายใช้เรียนต่อมหาวิทยาลัย
คดีวุ่นทวิตเตอร์
สำหรับมัสก์ตอนนี้ตกอยู่ในห้วงอลเวงทางธุรกิจ จากการที่ตัวเองประกาศจะซื้อกิจการบริษัททวิตเตอร์ สื่อโซเชียลรายใหญ่ของอเมริกา มูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ แต่ต่อมาเทแผนทิ้งกลางอากาศ จนเกิดการฟ้องร้องกันวุ่นวาย
เมื่อ 13 ก.ย. กลุ่มผู้ถือหุ้นทวิตเตอร์ลงมติเห็นชอบอย่างถล่มทลาย 98.6% ในแผนเปิดทางให้มัสก์ซื้อทวิตเตอร์ด้วยมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.6 ล้านล้านบาท คิดราคาหุ้นละ 54.20 ดอลลาร์ แม้ว่าราคาที่เปิดขายวันอังคารที่ 13 ก.ย. ดิ่งลงไปต่ำกว่า 41 ดอลลาร์ต่อหุ้น ต่ำกว่าราคาซื้อขายเกือบ 25%
“ทวิตเตอร์พร้อมเสมอและยินดีที่จะให้ผนวกกิจการเข้ากับมัสก์ในทันที ทุกที่ทุกเวลา แต่ต้องไม่นานเกินวันที่ 15 ก.ย. 2022″ แถลงการณ์ผู้ถือหุ้นระบุ ซึ่งเป็นการบีบให้มัสก์ซื้อกิจการให้ได้ แม้ว่ามัสก์ประกาศยุติข้อตกลงการซื้อกิจการไปแล้วในเดือนพฤษภาคม
มัสก์ให้เหตุผลว่า ทวิตเตอร์ละเมิดข้อตกลง เพราะล้มเหลวในการส่งข้อมูลบัญชีหลุมและบัญชีสแปมต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มให้ตน ตามที่ตนร้องขอ
การลงมติของผู้ถือหุ้นยังไม่สนใจที่มัสก์เพิ่งส่งจดหมายฉบับที่ 3 ถึงทวิตเตอร์ เพื่อหาทางล้มดีลดังกล่าว โดยยอมจ่ายชดเชยให้ 7.75 ล้านดอลลาร์ เพื่อจ่ายไปให้นายพีเทอร์ ซัตโก อดีตหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของทวิตเตอร์ ที่ภายหลังออกมาแฉจุดอ่อนของทวิตเตอร์ ว่าไม่ปลอดภัยและเสี่ยงที่ผู้ใช้จะถูกละเมิดความเป็นส่วนตัว
นายซัตโกเข้าให้การต่อหน้าคณะกรรมาธิการยุติธรรมของวุฒิสภาสหรัฐว่า ทวิตเตอร์เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่ปลอดภัย มีความล้าหลังค่อนข้างมาก โดยระบุว่าพนักงานทวิตเตอร์ส่วนใหญ่เป็นวิศวกร ทำให้เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ได้ง่าย อย่างชื่อ ที่อยู่ของผู้ใช้งาน
คดีความทั้ง 2 ฝ่ายยังคงดำเนินต่อไประหว่างมัสก์กับทวิตเตอร์ ซึ่งมีกำหนดขึ้นศาลในวันที่ 17 ตุลาคมที่จะถึงนี้
…..