หลังกลุ่มทาลิบันก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายใจกลางกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 95 ราย บาดเจ็บ 158 คน
โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นหลังคนร้ายได้ขับรถพยาบาลซึ่งภายในบรรทุกระเบิดไว้เต็มรถ ผ่านจุดตรวจของตำรวจเข้ามายังถนนซึ่งปิดไม่ให้รถทั่วไปวิ่งผ่าน ก่อนจะจุดระเบิดขึ้นใกล้กับอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงมหาดไทยเก่ารวมถึงสำนักงานของสหภาพยุโรปและสภาสันติภาพสูงสุด
สถานที่เกิดเหตุระเบิดยังเป็นที่ตั้งของสถานทูตต่างประเทศหลายแห่งรวมถึงเป็นที่ตั้งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอัฟกานิสถาน ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่ามีตำรวจอยู่ขวักไขว่ขณะที่ระเบิดถูกจุดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 12.15 น. ของวันที่ 27 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้เกิดควันพวยพุ่งจนเห็นได้จากทั่วทุกมุมเมือง
กลุ่มทาลิบันออกมาประกาศว่าเป็นผู้ทำการก่อเหตุโจมตีดังกล่าว หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อนกองกำลังทาลิบันได้บุกเข้าไปสังหารผู้คนถึง 22 คนในโรงแรมหรูใจกลางกรุงคาบูลมาแล้ว
ด้านรัฐบาลอัฟกานิสถานได้ประณามการระเบิดครั้งนี้ว่าเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และกล่าวหาว่าปากีสถานให้การสนับสนุนผู้ก่อการร้าย
ทั้งนี้ ทาลิบันนั้นควบคุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของปากีสถาน รวมถึงพื้นี่บางส่วนของประเทศเพื่อนบ้านของปากีสถานด้วย
โดยปากีสถานได้ปฏิเสธว่าไม่มีการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายที่สนับสนุนโจมตีอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม ในเดือนนี้ สหรัฐอเมริกาได้ตัดการช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ปากีสถานด้วยเหตุผลว่าไม่สามารถเข้ามาดำเนินการต่อต้านเครือข่ายผู้ก่อการร้ายได้