ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงผันผวนหนัก ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สหรัฐทุกตัวพากันร่วงลงอย่างหนักอีกครั้ง โดยดัชนีดาวโจนส์ตกลงมากกว่า 1,000 จุด เป็นครั้งที่สองในสัปดาห์นี้ ลดลง 4.15% มาปิดที่ 23,860 จุด ขณะที่เอสแอนด์พี 500 ตกลง 100.6 จุด หรือ 3.75% มาปิดที่ 2,581 จุด ส่วนดัชนีแนสแด็กลดลง 274.8 จุด หรือ 3.9% มาอยู่ที่ 6,777.1 จุด
การปรับลดลงอย่างรุนแรงอีกครั้งของตลาดหุ้นสหรัฐเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากตลาดหลักทรัพย์หลักทั่วยุโรปพากันร่วงไปก่อนหน้านี้ โดยตลาดหุ้นในกรุงลอนดอนปิดลดลง 1.49% มาอยู่ที่ 7,170.69 จุด ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ในเยอรมนีลดลง 2.6% และฝรั่งเศสลดลง 2%
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
การปรับลดของตัวเลขในตลาดหุ้นสหรัฐครั้งล่าสุดยังส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์และเอสแอนด์พี 500 ตกลงไปแล้วมากกว่า 10% จากสถิติตัวเลขปิดตลาดสูงสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
นอกจากความหวั่นเกรงว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐและการเพิ่มค่าแรงจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์แล้ว คาดว่าสิ่งที่ทำให้ตลาดหวั่นวิตกยังรวมถึงการเจรจาเรื่องงบประมาณสหรัฐซึ่งมีการเพิ่มงบค่าใช้จ่ายที่อาจยิ่งส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อตามมา
อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์มองว่าการร่วงลงอย่างรุนแรงของตลาดหุ้นในช่วงสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นผลของการปรับฐานของตลาด หลังจากที่ตลาดหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องยาวนาน พร้อมกับขอให้นักลงทุนอย่าหวั่นวิตก
ที่มา : มติชนออนไลน์