สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานในวันนี้ว่า บริษัท JD.com Inc ยักษ์อีคอมเมิร์ซอันดับ 2 ของจีน ได้ทุ่มงบ 2.5 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากต้องการเสริมความเเข็งเเกร่งในด้านธุรกิจโลจิสติกส์ หนุนตำแหน่งในด้านการค้าปลีกออนไลน์ในประเทศ เเละต่างประเทศ
ในเเถลงการณ์ระบุว่า บริษัท JD Logistics มีมูลค่าถึง 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ก่อนการระดมทุนใหม่ซึ่งนำโดย Hillhouse Capital, Sequoia China, China Merchants Group และเทนเซนต์
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เปิดไทม์ไลน์ แจกเงิน 10,000 ลงทะเบียนเมื่อไหร่ เงื่อนไขเป็นยังไง
โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา รอยเตอร์สรายงานว่า บริษัทได้เริ่มระดมทุนโดยมีเป้าหมายให้ได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ สำหรับงานด้านการขนส่ง เเละวางเเผนจัดทำธุรกิจในต่างประเทศ
“ริชาร์ด หลิว” หรือหลิว เชียงตง ผู้ก่อตั้งโดย JD.com กล่าวว่า การระดมทุนในปัจจุบันนี้ เป็นช่องทางในการขยายสาขาของบริษัทในภาคต่างๆ อาทิ หุ่นยนต์ โดรน ระบบอัตโนมัติ
หลังจากเสร็จการทำธุรกรรมครั้งนี้ JD.com จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ JD Logistics โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 81.4% การจัดหาเงินทุนคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปีนี้
โดยในปี 2016 JD.com ได้ลงทุนในสตาร์ตอัพช็อปปิ้ง “Wish” ของสหรัฐอเมริการาว 50 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการลงทุนในอีคอมเมิร์ซอเมริกาครั้งแรก จากนั้นในปี 2017 ได้มีการเซ็นเอ็มโอยูกับบริษัทโลจิสติกส์ญี่ปุ่น “ยามาโตะ” ทำให้ชาวจีนสามารถเลือกซื้อสินค้าจากญี่ปุ่นได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะพืช ผัก และผลไม้
พร้อมกันนั้น ก็ได้ลงทุนราว 100 เหรียญสหรัฐ ในสตาร์ตอัพบริการรถจักรยานยนต์ร่วมเดินทาง (ride-hailing) ชื่อว่า “Go-Jek” ของอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นอีกก้าวในการบุกตลาดอาเซียน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ยังมีโอกาสทางด้านอีคอมเมิร์ซอีกมาก
นอกจากนี้ JD.com ยังได้ร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัล ลงทุนขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซและฟินเทคในประเทศไทย โดยลงทุนร่วมกัน เม็ดเงิน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเล็งยกไทยเป็นฮับอีคอมเมิร์ซแห่งอาเซียน จากที่ตลาดอีคอมเมิร์ซอาเซียนกำลังโตอย่างรวดเร็ว และการขยายตัวของชนชั้นกลาง