เจ้าแม่วงการบันเทิงจีน เปลี่ยนแผน รวย 8 พันล้าน จากการปั้น หวัง อี้ป๋อ

ตู้ หัว นักธุรกิจหญิงที่เคยใฝ่ฝันเป็นดารา พลิกมาเป็นเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงจีน จากการปั้นซูเปอร์สตาร์ รวมถึง หวัง อี้ป๋อ

วันที่ 19 มกราคม 2566 บลูมเบิร์ก รายงาน เบื้องหลังความโด่งดังของ หวัง อี้ป๋อ ซูเปอร์สตาร์ของจีน ว่าเป็นความสำเร็จที่เสริมฐานะให้กับนักธุรกิจหญิง ตู้ หัว เจ้าของฉายา เจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงจีน

ตู้ หัว ก่อตั้งและเป็นประธานบริษัท วายเอช เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป (YH Entertainment, หรือ Yue Hua Entertainment) สร้างซูเปอร์สตาร์มานานกว่าทศวรรษ จนได้ชื่อว่าเป็น “แม่ทูนหัวแห่งวงการบันเทิงจีน” ล่าสุดบุกเบิกการนำรูปแบบเคป๊อปเข้ามาสู่จีน จนทำให้ หวัง อี้ป๋อ โด่งดังเป็นขวัญใจสาว ๆ

Actor Wang Yibo attends 2020 Tencent Video Star Awards on December 20, 2020 in Nanjing, Jiangsu Province of China. (Photo by VCG/VCG via Getty Images)

ดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์กระบุว่า ตู้ถือครองหุ้นวายเอช ร้อยละ 43  มูลค่าประมาณ 240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 8 พันล้านบาท

วายเอชเข้าตลาดอีกครั้ง

ขณะนี้ วายเอช เอนเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป พร้อมจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงอีกครั้ง หลังจากไม่สำเร็จเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน

บริษัทลดขนาดและคัดเลือกนักลงทุนหลัก 4 ราย รวมทั้ง ติง สือเจีย จากบริษัท อันตา สปอร์ต โปรดักส์ของจีน ระดมทุนได้ 63 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2,079 ล้านบาท ลดลงจากที่เคยกำหนดไว้ที่ 140 ล้านดอลลาร์ หรือ 4,620 ล้านบาท และการขาย IPO เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 ก.ย. ที่ฮ่องกงเปิดให้จองซื้อเกินสิทธิได้เกือบ 30 เท่า

ตู้ หัว

สแตนลีย์ ชาน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเอ็มเพอเรอร์ ซิเคียวริตี กล่าวว่าตลาด IPO ในฮ่องกงดีขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาและนักลงทุนสนใจหุ้นวายเอชอีกครั้งเพราะลดขนาดลงและมีนักลงทุนรายสำคัญช่วยสร้างความเชื่อมั่น

เปลี่ยนแผนปั้นดารา

ตู้ วัย 41 ปี เคยให้สัมภาษณ์ Vogue เวอร์ชั่นจีนในปี 2018 (พ.ศ. 2551) ว่าสมัยเรียนชั้นมัธยมฯ เคยฝันอยากจะเป็นศิลปิน เรียนภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยจีนและทำงานกับบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต 5 ปี ก่อนที่จะเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายดนตรีแล้วจึงออกมาก่อตั้งวายเอชในปี 2009 (พ.ศ. 2552)

หลังจากทุ่มทุนไป 2 ล้านหยวนหรือประมาณ 9 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก จึงตระหนักได้ว่าการเซ็นสัญญากับศิลปินเพื่อออกผลงานนั้นไม่ได้ทำให้ไปได้ไกลนักเพราะเคป๊อปกำลังครองโลก

ตู้เปลี่ยนแผนไปจำนองบ้านเพื่อหาเงินไปญี่ปุ่นและเกาหลี เรียนรู้การดึงพรสวรรค์ของวัยรุ่นออกมาปั้นให้เป็นซูเปอร์สตาร์คนใหม่

หวัง อี้ป๋อ เป็นดาราแถวหน้าของวายเอช ขายซิงเกิลได้หลายสิบล้านก๊อบปี้และเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ให้กับแบรนด์ดัง เช่น ชาแนล และมงแคลร์ อีกทั้ง มีผู้ติดตามออนไลน์กว่า 40 ล้านราย

หวัง อี้ป๋อ แบรนด์แอมบาสซาเดอร์ มงแคลร์

หลังจากชายหนุ่มเริ่มเข้าวงการบันเทิงจากเวทีการแข่งเต้นฮิปฮอปเมื่ออายุ 13 ปี และเป็นเด็กฝึกกลุ่มแรกที่คุณแม่ตู้ปั้นให้เป็นสมาชิกวง UNIQ บอยแบนด์คล้ายกับวง BTS ของเกาหลี

หวัง อี้ ป๋อ กับแบรนด์ ชาเนล

รายได้พุ่ง 40% ทั้งที่แข่งขันสูง

ธุรกิจของตู้เปิดตัวอย่างจริงจังในปี 2018 (พ.ศ. 2561) ขณะที่แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งของบริษัท เทนเซน โฮลดิงส์ และอ้ายฉีอี้ iQiyi เริ่มมีรายการเรียลิตี้โชว์ให้ผู้ชมโหวตเลือกไอดอลเพื่อตั้งวงดนตรี ศิลปินหลายคนในค่ายวายเอชได้รับความนิยมผ่านรายการต่าง ๆ เหล่านี้ ทั้งยังมีบริษัทยักษ์อย่าง อาลีบาบา และโต่วอิน ของไบต์แดนซ์

ปัจจุบัน บริษัทแบ่งการบริหารออกเป็น 7 กลุ่ม แต่ทางการจีนห้ามมีรายการโชว์ที่ดึงดูดแฟนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรุ่นเยาว์มากเกินไป จึงจำกัดวิธีที่บริษัทบันเทิงจะโปรโมตลูกค้า ส่วนศิลปินบางคนก่อเรื่องอื้อฉาว บางคนหนีภาษี จนถูกปรับและถูกขับออกจากวงการบันเทิง

ถึงอย่างนั้น รายได้ของวายเอชเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ไปแตะที่ 1,300 ล้านหยวนหรือประมาณ 6,500 ล้านบาทในปี 2021 (พ.ศ. 2564) และมีกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 แม้เผชิญการแข่งขันสูง

Du Hua, founder of Yue Hua Entertainment, attends Lanvin event on October 17, 2020 in Shanghai, China. (Photo by VCG/VCG via Getty Images)

รายได้และผลกำไรงามมีความเชื่อมโยงกับศิลปินที่ดีที่สุด นักแสดงชั้นนำทำยอดขายเกือบร้อยละ 60 ในช่วง 9 เดือนแรกจนถึงเดือน ก.ย. ซึ่งวายเอชไม่ได้ระบุชื่อศิลปินและจะโปรโมตต่อไปและสร้างเด็กฝึกหน้าใหม่ออกมาเรื่อย ๆ

ลูทินา กู่ ที่ปรึกษาบริษัท Daxue Consulting กล่าวว่าหากวายเอชต้องการปั้นนักแสดงสุดปังคนต่อไป จะต้องเสียเวลาและทรัพยากรจำนวนมาก

บริษัท Hybe ซึ่งเป็นเอเจนซีบริหารวงบีทีเอสต้องพึ่งความนิยมของวงเช่นกันและหุ้นยังไม่ดีดขึ้นเต็มที่ ตั้งแต่เดือน มิ.ย. เพราะต้องพักวง เนื่องจากสมาชิกบางคนต้องเกณฑ์ทหาร แต่บัง ชี ฮยอก ผู้ก่อตั้ง Hybe ยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในเกาหลี มีทรัพย์สินมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 56,100 ล้านบาท

ส่วนคู่แข่งอย่าง พัก จิน-ย็อง เจ้าของบริษัทเจวายพี และอี ซู มาน เจ้าของบริษัทเอสเอ็ม เอนเตอร์เทนเมนท์ ต่างถือหุ้นมูลค่ามากกว่า 250 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 8,250 ล้านบาทในบริษัทของตน


ชานมองว่าการค้นหาซูเปอร์สตาร์คนใหม่มักมากับความไม่แน่นอนเสมอ