ฉาว! ผลสำรวจเผย ชาวออสเตรเลีย 65% ต้องการให้ “รองนายกฯ” ลาออก หลังมีชู้กับอดีตเลขาฯ

นายบาร์นาบี จอยซ์ รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย AFP PHOTO / WILLIAM WEST

ผลสำรวจเผย ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวออสเตรเลีย ร้อยละ 65 ต้องการให้รองนายกรัฐมนตรี “บาร์นาบี จอยซ์” ลาออกจากตำเเหน่ง หลังถูกเปิดโปงว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกับอดีตเลขาฯ จนถึงขั้นตั้งครรภ์

หนังสือพิมพ์ ดิออสเตรเลีย รายงานผลสำรวจความเห็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยร้อยละ 65 ต้องการให้เขาลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค National ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

โดยเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวส่งผลเพิ่มความนิยม ให้พรรคฝ่ายค้านให้มีคะเเนนนำพรรคเสรีนิยมของนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล อยู่ร้อยละ 53 ต่อ 47 สร้างความสั่นคลอนทางการเมือง ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปที่จะต้องมีขึ้นภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า

ทั้งนี้ นายจอยซ์วัย 50 ปี รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน เเละเป็นคริสต์คาทอลิกที่มักรณรงค์เรื่องคุณค่าครอบครัว มีบุตรสาวร่วมกัน 4 คน กับอดีตภรรยาคือน.ส.นาตาลี แอ็บเบอร์ฟิลด์ ซึ่งแต่งงานกันมานานถึง 24 ปี ก่อนหย่าร้างเมื่อปลายปีที่แล้ว โดยเขากำลังจะมีบุตรคนที่ 5 กับน.ส.วิกกี แชมเปี้ยน วัย 33 ปี อดีตเลขานุการของจอยซ์ ซึ่งมีกำหนดคลอดบุตรในเดือนเม.ย. นี้

จากกรณีนี้ นายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูล ได้ประกาศใช้อำนาจในฐานะผู้นำรัฐบาลออสเตรเลีย เพิ่มเติมระเบียบปฏิบัติด้านจริยธรรม โดยห้ามรัฐมนตรีทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง สถานภาพโสดหรือสมรสแล้ว มีความสัมพันธ์ชู้สาวกับผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม ผู้นำออสเตรเลีย กล่าวว่า เเม้กระทำของจอยซ์ไม่ได้ละเมิดกฎหมายข้อใด แต่ก็ยอมรับว่าพฤติกรรมของจอยซ์ “เป็นความผิดพลาดอย่างน่าตกใจในการใช้ดุลยพินิจ” (shocking error of judgement) เเละทำร้ายจิตใจครอบครัวตนเอง


ทั้งนี้ ถือว่าบทบาทของจอยซ์ มีส่วนสำคัญต่อเสียงในสภาของฝ่ายรัฐบาล เนื่องจากเขาเป็นหัวหน้าพรรค National พรรคร่วมรัฐบาลรายสำคัญ ที่หากตัดสินใจหันไปจับมือกับฝ่ายค้านก็จะทำให้ พรรค Liberal ของนายกฯ เทิร์นบูลกลายเป็นฝ่ายค้านได้