“โดนัลด์ ทรัมป์” ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ ชี้หนักสุดเท่าที่เคยมีมา!

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ที่ทรัมป์ชี้ว่าเป็นมาตรการคว่ำบาตรที่หนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา

“วันนี้เราได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรที่หนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งเป็นที่หวังอย่างยิ่งว่าจะทำให้มีบางสิ่งในแง่บวกเกิดขึ้นได้” ทรัมป์ประกาศท่าทีนี้ต่อเกาหลีเหนือในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์นอกกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ทรัมป์ถูกคาดหมายว่าจะเปิดเผยถึงรายละเอียดของมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่นี้ ทว่าทรัมป์ได้ข้ามเนื้อหาในส่วนนี้ไป ที่รายงานข่าวแจ้งว่า มาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่นี้ของรัฐบาลทรัมป์พุ่งเป้าหมายไปที่เรือขนส่งของเกาหลีเหนือ 56 ลำ บริษัทเดินเรือขนส่งและการดำเนินธุรกิจการค้าของเกาหลีเหนือ

ขณะที่ในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ที่อยู่ในระหว่างเยือนประเทศสหรัฐ ทรัมป์กล่าวว่า การคว่ำบาตรใหม่ต่อเกาหลีเหนือนี้ยังเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น “หากมาตรการเหล่านี้ไม่ได้ผล เราจะเดินหน้าก้าวที่สองต่อไปที่จะเป็นสิ่งที่รุนแรงหนักหน่วงมากๆ” ทรัมป์กล่าว แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นสิ่งใด

การประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือรอบใหม่ของผู้นำสหรัฐยังมีขึ้นในขณะที่นางอีวานกา ทรัมป์ บุตรสาวของทรัมป์ อยู่ในระหว่างเยือนเกาหลีใต้เพื่อร่วมพิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก “พยองชางเกมส์” ที่จะปิดฉากลงในวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ โดยนางอีวานกาได้พบปะกับประธานาธิบดีมุน แจ อิน ของเกาหลีใต้ ซึ่งได้กล่าวยืนยันถึงความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่ระหว่างสองชาติ พร้อมกันนี้นางอีวานกายังได้นำสารส่วนตัวของบิดาเกี่ยวกับการประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งใหม่ของผู้นำสหรัฐแจ้งต่อผู้นำเกาหลีใต้ในระหว่างที่พบปะกันที่ทำเนียบสีน้ำเงินด้วย

ด้านนางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวกล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อเกาหลีเหนือว่า เราหวังว่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในส่วนของเกาหลีเหนือในการเริ่มต้นทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์ และว่า ตนสามารถบอกได้เลยว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา

วันเดียวกัน ข่าวแจ้งว่า สหรัฐได้ร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) ขึ้นบัญชีดำบุคคลหรือนิติบุคคลของเกาหลีเหนือที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบค้าน้ำมันและถ่านหินที่ถือเป็นการขัดต่อมติคว่ำบาตรของยูเอ็นด้วย ซึ่งคำร้องขอนี้มีขึ้นหลังจากทรัมป์ประกาศมาตรการคว่ำบาตรใหมต่อเกาหลีเหนือแล้ว

 

 

 

 


ที่มา มติชนออนไลน์