“โตโยต้า” เตือน “รัฐบาลทรัมป์” ขึ้นภาษีเหล็ก-อลูมิเนียม เพิ่มต้นทุน ดันราคารถยนต์เเพงขึ้น

AFP

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกจากญี่ปุ่น “โตโยต้า มอเตอร์” ระบุถึงกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เเห่งสหรัฐ เตรียมปรับขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมว่าจะส่งผลต่อราคารถยนต์ที่ขายในอเมริกา เนื่องจากต้นทุนที่สูงขึ้น

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า โตโยต้า มอเตอร์ ออกเเถลงการณ์ต่อกรณีดังกล่าวว่า มาตรการนี้จะส่งผลให้ราคาขายรถยนต์ในสหรัฐแพงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เพราะมากกว่า 90% ของเหล็กและอลูมิเนียมที่โตโยต้าใช้สำหรับผลิตสินค้าจำหน่ายในสหรัฐ จะเป็นการสั่งซื้อจากผู้ประกอบการในอเมริกา

“การตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐ ในการกำหนดอัตราภาษีเหล็กและอลูมิเนียม มีนัยสำคัญที่จะส่งผลเสียต่อผู้ผลิตรถยนต์ ผู้จำหน่ายยานยนต์และผู้บริโภค” โตโยต้าระบุ

โดยคืนวานนี้ (1 มี.ค.) ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศสรุปว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กในอัตรา 25% และอลูมิเนียม 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า

มาตรการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เคยประกาศจะพิจารณามาตรการต่างๆ ที่ช่วยปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐ รวมถึงพิจารณาภาษีการนำเข้าสินค้า ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศปรับเพิ่มไปแล้วเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ปัจจุบันสหรัฐ ถือเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดของโตโยต้า ด้วยยอดจำหน่าย 2.4 ล้านคัน เมื่อปีที่แล้ว อีกทั้งทางบริษัทยังมีแผนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในรัฐแอละบามา ที่มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยร่วมกับบริษัทมาสด้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากญี่ปุ่นด้วย

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ของจีน ออกแถลงการณ์แสดง “ความวิตกกังวลอย่างยิ่ง” ต่อความเคลื่อนไหวของสหรัฐในเรื่องดังกล่าว


คลิกอ่าน >> งานงอก! ทรัมป์เคาะ ‘ภาษีเหล็กใหม่’ เรียกเก็บสูงถึง 25% เริ่มใช้สัปดาห์หน้า