“อียู” ประกาศพร้อมทำสงครามการค้าโง่ๆ หากสหรัฐตั้งกำแพงภาษีเหล็ก-อะลูมิเนียม

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) ประกาศพร้อมที่จะทำสงครามการค้าโง่ๆ เพื่อตอบโต้สหรัฐอเมริกา หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ประกาศจะตั้งกำแพงภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม โดยจะออกมาตรการตอบโต้ต่อสินค้าของสหรัฐทั้งหลาย อย่างเช่น รถจักรยานยนต์ ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน , กางเกงยีนส์ลีวาย และเบอร์เบิน วิสกี้

ทั้งนี้ แม้จะมีคำขู่จากอียูออกมาต่อมาตรการกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม หากแต่ทรัมป์ก็ยังคงเดินหน้ามาตรการดังกล่าว แม้จะมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดสงครามการค้าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากประเทศที่ได้รับผลกระทบก็จะปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ ซึ่งถึงที่สุดแล้ว ทุกฝ่ายก็จะได้รับผลกระทบเนื่องจากสินค้าส่งออกของแต่ละประเทศก็จะได้รับผลกระทบถ้วนหน้า ขณะที่ผู้บริโภคเองก็จะต้องเผชิญกับราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากภาษีที่เพิ่มขึ้น

โดยเมื่อวันที่ 7 มีนาคม นางเซซิเลีย มาล์มสตรอม คณะกรรมาธิการการค้าอียู กล่าวว่า สมาชิกของอียูกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องของบัญชีสินค้าของสหรัฐที่จะตกเป็นเป้าหมายของการตั้งกำแพงภาษี เพื่อปฏิบัติการตอบโต้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ซึ่งบัญชีสินค้าเหล่านี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งจะรวมทั้งเหล็ก และผลิตภัณฑ์การเกษตรของสหรัฐ รวมไปถึงผลิตภัณพ์อื่นๆ อย่างเช่น เบอร์เบิน วิสกี้ เนยถั่ว แครนเบอร์รีและน้ำส้ม

อย่างไรก็ตาม นางมาล์มสตรอม ไม่ได้บอกว่า จะมีการกำหนดภาษีสินค้าเหล่านี้เป็นเท่าไหร่ ทำให้ไม่แน่ชัดว่าจะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด

ขณะที่นายฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า แม้ว่าสิ่งที่ทำดูเหมือนจะเป็นเรื่องโง่ๆ แต่ก็ต้องทำสิ่งที่โง่ๆ

รายงานระบุด้วยว่า ต้นตอของปัญหาเกิดจากการผลิตเหล็กและอะลูมิเนียมที่มากเกินความต้องการของประเทศจีน จนทำให้ภาวะเหล็กและอะลูมิเนียมล้นตลาดโลก จนทำให้ราคาตกต่ำลง และเพิ่มแรงกดดันต่อสินค้าของสหรัฐและยุโรป

 


ที่มา มติชนออนไลน์