“คอยน์เช็ก” บริษัทซึ่งให้บริการซื้อ-ขายคริปโตเคอร์เรนซี ผ่านเว็บไซต์ สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งถูกโจรกรรมเงินดิจิทัลไปมูลค่ามหาศาล เมื่อเดือนมกราคม แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ได้จ่ายชดเชยให้แก่ลูกค้าราว 2 แสนคน ที่โดนโจรกรรมไป ครบจำนวนแล้ว โดยชดเชยรวมเป็นมูลค่ากว่า 46,300 ล้านเยน หรือราว 435 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยเมื่อเดือนมกราคม คอยน์เช็กถูกแฮ็กเข้าระบบและขโมยเงินสกุล NEM ไปมูลค่า 539 ล้านยูนิต
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค. 2567
- ออมสิน ฉลองครบวาระ 111 ปี จัดเต็ม สลากออมสินลุ้นรางวัลใหญ่ 111 ล้านบาท
ทั้งนี้ คอยน์เช็กได้จ่ายเงินคืนลูกค้า ที่ราคา 88.549 เยน ต่อ 1 NEM ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่ามูลค่าในตลาดสกุลเงินดิจิทัลปัจจุบัน แต่ต่ำกว่ามูลค่าเมื่อตอนถูกโจรกรรม ซึ่งอยู่ที่ 110 เยนต่อ 1 ยูนิต
โฆษกจากคอยน์เช็ก ระบุว่า เงินที่นำมาจ่ายชดเชยให้แก่ลูกค้า มาจากกองทุนของคอยน์เช็กเอง
ขณะที่เมื่อวาน “โคอิชิโร วาดะ” ซีอีโอคอยน์เช็ก ได้จัดแถลง ระบุว่า ปัจจุบัน คอยน์เช็กยังปิดให้บริการเว็บไซต์อยู่นับตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่ได้อนุญาตให้ผู้ใช้บริการถอนเงินดิจิทัลออกจากระบบแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่รับการฝากเงินใดๆ เพิ่ม
นักลงทุนที่ได้รับเงินคืน ระบุว่า โล่งอก และจะนำเงินไปที่ได้คืนไปลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีตัวอื่นต่อไป ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า การลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีในปัจจุบัน ยังมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกโจรกรรมอีก
ทั้งนี้ คอยน์เช็ก ระบุว่าบริษัทตนคือเว็บไซต์ที่ให้บริการซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม คอยน์เช็กยังไม่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลญี่ปุ่น โดยได้รับการเตือนจากหน่วยงานกำกับถึง 2 ครั้งว่าให้ดำเนินการปรับปรุงระบบให้ปลอดภัยขึ้น