สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวในเกาหลีเหนือยังคงซบเซา เหตุจากผลกระทบในเรื่องการเมือง เเละการห้ามประชาชนสหรัฐมาเที่ยวที่เกาหลีเหนือ
การท่องเที่ยวระหว่างประเทศสหรัฐฯไปยังเกาหลีเหนือ ลดลงอย่างมากเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นในการทดสอบและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือ
ในเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาสั่งห้ามประชาชนเดินทางไปยังเกาหลีเหนือ หลังจากการเสียชีวิตของนาย ออตโต วอร์มเบียร์ นักศึกษาภาควิชาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย ที่ถูกจับกุมขณะเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีเหนือเมื่อเดือน ม.ค. 2016 ซึ่งถูกคุมขังในเกาหลีเหนือนานกว่า 17 เดือน
นายไซมอน คอคเคอร์เรล ผู้จัดการทั่วไปของ Koryo Tours กล่าวว่า การท่องเที่ยวใกล้เข้าสู่สภาวะถดถอย นักท่องเที่ยวจำนวนน้อยลง ตลาดท่องเที่ยวมีขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการท่องเที่ยวของเกาหลีเหนือในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เริ่มผ่อนคลายลง เนื่องจากเเรงหนุนจากการเจรจาทางการเมือง รวมถึงการผลักดันให้เกิดการประชุมระหว่างกรุงเปียงยาง เเละกรุงวอชิงตันร่วมกัน
โรเวียร์ เครา ผู้จัดการของ Young Pioneer Tours กล่าวว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขการท่องเที่ยวตกต่ำคือ นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันเข้ามาเที่ยวน้อยลง เห็นได้จากจำนวนผู้เข้าร่วมการแข่งขันวิ่งมาราธอนเปียงยางในปีนี้ลดลงอย่างมาก
“ส่วนใหญ่ของนักวิ่งที่เข้าร่วมกับเราก่อนหน้านี้คือชาวอเมริกัน” เครากล่าวอธิบายถึงการวิ่งมาราธอนว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งต่างจากช่วงเวลาก่อนเกิดความตึงเครียด นักท่องเที่ยวต่างกระตือรือร้นที่จะเข้ามาในเกาหลีเหนือ เพื่อร่วมกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งมีนักวิ่งต่างชาติกว่า 1,000 คน เเต่ในปีนี้คาดว่าจะเหลือเพียง 500 คน
การห้ามประชาชนมายังเกาหลีเหนือยังคงมีอยู่ ยกเว้นในกลุ่มนักธุรกิจ เเละนักข่าว ซึ่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เริ่มเตือนชาวอเมริกันที่เดินทางไปยังเกาหลีเหนือหรือประเทศอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงเเล้ว