“ซัคเคอร์เบิร์ก” เข้าให้การกมธ.วุฒิสภาสหรัฐ “ขอโทษ” ข้อมูลเฟซบุ๊กรั่ว 87 ล้านรายโยงศึกเลือกตั้ง

AFP PHOTO / SAUL LOEB

เมื่อ 10 เม.ย. สำนักเอพี รายงานการให้เข้าปากคำของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเฟซบุ๊ก สื่อสังคมออนไลน์รายยักษ์ใหญ่ของโลก ต่อคณะกรรมาธิการยุติธรรมและพาณิชย์ วุฒิสภา สหรัฐอเมริกา กรณีบริษัทเคมบริดจ์ อนาลีติกา ที่เกี่ยวพันกับทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ นำข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้บริการของเฟซบุ๊ก 87 ล้านรายชื่อ ไปใช้เพื่อโน้มน้าวคะแนนเสียงเลือกตั้ง ว่า เป็นความผิดพลาดของตนเองที่ไม่ป้องกันให้ดีพอ ขณะนี้เฟซบุ๊กจะรับมือสถานการณ์นี้โดยใช้บทเรียนความผิดพลาดที่เกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก

“เราไม่ได้ใช้มุมมองที่กว้างพอสำหรับความรับผิดชอบของเรา และนั่นเป็นความผิดพลาดมหันต์ มันเป็นความผิดพลาดของผม และผมขอโทษ ผมเป็นคนเริ่มเฟซบุ๊กขึ้น ผมดำเนินงาน และผมต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่”  ซัคเคอร์เบิร์กกล่าว

สำหรับอีกประเด็นสำคัญหนึ่งที่ซักเคอร์เบิร์กถูกซักถาม ว่าด้วยเรื่องติดต่อกับคณะกรรมการอิสระนำโดยนายโรเบิร์ต มุลเลอร์ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริงว่ารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐหรือไม่นั้น ซักเคอร์เบิร์กกล่าวยอมรับว่าเฟซบุ๊กให้ความร่วมมือกับคณะของนายมุลเลอร์จริง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นใดอีก เพราะกลัวว่าจะละเมิดกฎเก็บรักษาความลับ

AFP PHOTO 

ซักเคอร์เบิร์กแต่งตัวในชุดสูทผูกไทอย่างเป็นทางการเพื่อเข้าให้การครั้งนี้ แตกต่างจากชุดเสื้อยืดและกางเกงยีนส์ที่มักใส่แม้แต่ในการแถลงยุทธศาสตร์ประจำปีของบริษัท

ซีอีโอวัย 33 ปีกล่าวยอมรับความผิดพลาดทั้งหมดเกิดจากแนวคิดของตนเองที่ใสซื่อจนคาดไม่ถึงว่าจะมีผู้ฉกฉวยโอกาสหาประโยชน์และนำเฟซบุ๊กไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ขณะที่สมาชิกกรรมาธิการส.ว.ซักถามอย่างละเอียด
AFP PHOTO / JIM WATSON

การเดินทางเข้าให้ปากคำครั้งนี้จะถือเป็นการทดสอบครั้งสำคัญต่อความสามารถในการบริหารวิกฤตของซัคเคอร์เบิร์ก ท่ามกลางบรรดานักการเมืองที่ต่างไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

AFP PHOTO / SAUL LOEB

เมื่อนายจอห์น ธูน ประธานกรรมาธิการวุฒิสภาถามว่า หลังจากเฟซบุ๊กก่อตั้งมา 14 ปี มีสมาชิกใช้บริการกว่า 2,000 ล้าน ก็ขอโทษในเรื่องที่ตัดสินใจผิดพลาดในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้มาโดยตลอด จึงอยากรู้ว่า การขอโทษในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ อย่างไร

ซัคเคอร์เบิร์กล่าวว่า ทีมงานทำผิดพลาดมากมายในช่วงตั้งบริษัท แต่ตนคิดว่าเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับบริษัทที่ตั้งขึ้นในหอพักแล้วเติบโตอย่างมหาศาลมาถึงจุดนี้โดยไม่ทำอะไรผิด

อย่างไรก็ตาม ซีอีโอหนุ่มกล่าวว่า เฟซบุ๊กผ่านพ้นช่วงปรับเปลี่ยนหลักการให้รอบด้านมากขึ้นเพื่อจะมีความรับผิดชอบในฐานะบริษัทหนึ่ง การทำเช่นนั้นได้ บริษัทต้องมีบทบาทที่เอาอยู่ ซึ่งนั่นหมายถึงการมีเครื่องมือที่จะสร้างสรรค์ในทางที่ถูกที่ควร

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์