เมื่อวันที่ 14 เมษายน พลเอกนิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์กับ มติชน ว่า การโจมตีต่อที่หมายในซีเรียเมื่อเช้าวันนี้ เป็นการทำสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อเนื่องที่เริ่มรบกันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ล่าสุด สหรัฐ อังกฤษและฝรั่งเศส ประสานกันอย่างแน่นแฟ้นตัดสินใจใช้อาวุธนำวิถีระยะไกล และอากาศยานถล่มเป้าหมายที่ระบุว่า เป็นที่ตั้งของกองกำลังและคลังอาวุธเคมีของซีเรียที่ทหารนำไปใช้สังหารประชาชนที่เมืองดูมาเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจาก ทรัมป์ ประกาศว่า การโจมตีที่ทำเนียบขาวในเวลา 2100 น.(เวลาในวอชิงตัน) จุดประสงค์ของการโจมตีครั้งนี้ เพื่อยับยั้งการใช้อาวุธเคมี
พลเอกนิพัทธ์ กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้มีความสำคัญยิ่งต่อตัวประธานาธิบดี บาชาร์ อัลอัซซาด ซึ่งเป็นผู้นำซีเรียที่รับผิดชอบในสงครามกลางเมืองมากว่า 7 ปี เป็นความชัดเจนของการโจมตีโดย นาย จอห์น แมททิส รมว.กห. สหรัฐ แถลงเป้าหมาย 3 ประเภท คือ สถานที่ทดลองทางวิทยาศาสตร์ในกรุงดามัสกัส คลังเก็บสารเคมีทางตะวันตกของเมืองฮอม (Homs) และที่บัญชาการทางทหารใกล้เมืองฮอม
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
“เป็นที่น่าสนใจว่า การโจมตีครั้งนี้ มีมหาอำนาจรัสเซียออกมาแถลงการณ์สนับสนุนฝ่ายซีเรีย รัสเซียมีกองกำลังของของรัสเซียตั้งอยู่ในบริเวณเป้าหมายด้วย สื่อในซีเรียที่สนับสนุนนาย อัล อัซซาด เปิดเผยในขั้นต้นว่ามีที่หมายโดนโจมตีเสียหายบางจุด แต่ฝ่ายซีเรียก็สามารถใช้ขีปนาวุธยิงสกัดขีปนาวุธของสหรัฐก่อนพุ่งเข้าสู่ที่หมายได้
“ท่าทีของนางเทเรซาเมย์ นรม.อังกฤษกล่าวชัดเจนว่า อังกฤษส่งเครื่องบินรบ ทอร์นาโด 4 ลำเข้าร่วมโจมตีเป้าหมาย ส่วนเหตุผลที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมการปฏิบัติการครั้งนี้โดยประธานาธิบดี มาครง กล่าวว่า “ซีเรียได้ใช้อาวุธเคมีสังหารหมู่ประชาชน ผู้หญิงและเด็ก เสียชีวิตที่เมืองดูมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้” ”
พลเอกนิพัทธ์ กล่าวอีกว่า เท่าที่ติดตามเหตุการณ์ สหรัฐเคยปล่อยจรวดโทมาฮอว์ค 59 ลูกถล่มฐานทัพซีเรียเมื่อเมษายนปีที่แล้วซึ่งมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต ราว 80 คน ซึ่งก็ไม่เกิดผลการเปลี่ยนแปลงใดๆทางการเมือง ในซีเรีย การโจมตีครั้งล่าสุดนี้ สหรัฐใช้อาวุธถล่มมากเป็น 2 เท่า
“เรื่องสงครามกลางเมืองในซีเรียยาวนาน 7 ปี เป็นเรื่องที่น่าเวทนา เพราะมีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตไปแล้วราว 6 หมื่นคน ชาวซีเรียหนีตายออกนอกประเทศ บ้างก็เรือล่มเสียชีวิตในทะเล บางส่วนทะลักเข้าไปในบ้านใกล้เรือนเคียง และลุกลามเข้าไปในยุโรป สงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กันเองในซีเรีย มีตัวละครมากหลาย มีความสลับซับซ้อน มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องหลายฝ่าย เป็นการกลับมาเผชิญหน้าของมหาอำนาจอีกครั้ง ที่น่าสนใจที่สุด คือ ท่าทีของปูติน ที่จับมือกับผู้นำอิหร่าน ที่แข็งกร้าวต่อ 3 มหาอำนาจส่วนท่าทีประเทศไทย มีหน่วยงานดูแลรับผิดชอบอยู่แล้ว” พลเอกนิพัทธ์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา มติชนออนไลน์