บีบีซีรายงานว่า ประเทศซาอุดิอาระเบียเปิดตัวแผนพัฒนาการท่องเที่ยวครั้งใหญ่ ด้วยการเตรียมสร้างรีสอร์ทหรูบนเกาะต่างๆ กว่า 50 เกาะ และพื้นที่อื่นบนทะเลแดง บนความหวังว่าจะเป็นจุดดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่กระจายเศรษฐกิจของซาอุฯ หลังราคาน้ำมันตกลง
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวยังรวมไปถึงการขอวีซ่าเพื่อเข้ามาในโซนท่องเที่ยวก็จะทำได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่ากฎระเบียบในเรื่องการแต่งกายและข้อจำกัดอื่นๆ ในอาณาจักรอนุรักษนิยมแห่งนี้จะได้รับการผ่อนปรนด้วยหรือไม่
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศที่ไม่อนุญาตให้มีโรงภาพยนตร์ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการแต่งกายของผู้หญิงในที่สาธารณะ ก็ต้องสวมชุดหลวมๆ ยาวคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าที่เรียกว่าชุดอาบายา รวมถึงผ้าคลุมศีรษะหากเธอเป็นมุสลิม นอกจากนี้ พวกเธอยังไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถ และหากต้องไปศึกษาหรือเดินทางไปต่างประเทศ ก็ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองที่เป็นผู้ชายก่อน
สำหรับรีสอร์ทดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2019 ซึ่งในเฟสแรกจะสร้างสนามบินแห่งใหม่ รวมไปถึงโรงแรมและบ้านพักหรูด้วย โดยคาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จในปี 2022
ทั้งนี้ ซาอุฯเป็นประเทศที่มีชาวต่างชาติเดินทางไปหลายล้านคน ทั้งไปทำงานหรือไปแสวงบุญฮัจญ์ที่เมกกะ แต่เนื่องจากความเคร่งครัดของศาสนาและสังคม ทำให้ภูมิทัศน์ที่สวยงามแทบจะไม่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจนกระทั่งปัจจุบัน ทำให้ซาอุฯเริ่มหันกลับมาพัฒนาการท่องเที่ยวมากขึ้น
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือราคาน้ำมันในปัจจุบันที่ตกลง ซาอุฯจึงต้องมองหนทางใหม่ในการสร้างรายได้และกระจายงานไปสู่ชาวซาอุฯอย่างเร่งด่วน การท่องเที่ยวจึงเป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่จะสร้างเศรษฐกิจใหม่และวิสัยทัศน์ทางสังคมใหม่ด้วย
สำหรับโปรเจ็กต์การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาที่มีชื่อว่า “วิชั่น 2030” ที่เป็นวิสัยทัศน์ของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่เพิ่งก้าวขึ้นเป็นรัชทายาทพระองค์ใหม่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การพัฒนาทะเลแดงดังกล่าวจะทำให้มีสิ่งปลูกสร้างตั้งขึ้นตลอดความยาว 200 กิโลเมตร ของชายหาดตะวันตกของซาอุดิอาระเบีย อย่างไรก็ตาม จะมีการปกป้องแนวปะการัง, ภูเขาไฟสงบ และสัตว์ป่าหายากที่อาศัยอยู่บริเวณนี้อย่างเสือดาวอาระเบียและเหยี่ยวด้วย