“เซนส์บิวรี่ส์” ซื้อบริษัทลูก “วอลมาร์ท” กว่า 1 หมื่นล้านดอลล์ เพื่อสร้างซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ

REUTERS/Phil Noble

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เซนส์บิวรี่ส์ (Sainsbury) ซุปเปอร์มาร์เก็ตสัญชาติอังกฤษที่โด่งดังเรื่องสินค้าสดใหม่ ได้ตกลงซื้อ Asda บิ๊กซูเปอร์มาร์เก็ตในอังกฤษ ที่เป็นบริษัทลูกของร้านวอลมาร์ทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ด้วยงบประมาณ 7.3 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษโดยมีส่วนแบ่งการตลาดแซงหน้าเทสโก้

การรวมกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่เป็นอันดับสองและสามของสหราชอาณาจักร สามารถเพิ่มยอดผู้บริโภค เเละสร้างการเติบโตของบริษัท เเละทำให้เเข่งขันกับคู่เเข่งอย่างเทสโก้ได้อีกด้วย โดยวอลมาร์ท ได้ซื้อ Asda เมื่อปี 1999 มูลค่ากว่า 6.7 พันล้านปอนด์

ประกาศดังกล่าวส่งผลให้หุ้นของเซนส์บิวรี่ส์ ปรับตัวสูงขึ้น 21% เป็น 327.1 เพนนี ในช่วงเช้าวันจันทร์ที่ซื้อขายสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2014 ขณะที่ตลาดหุ้นของเทสโก้ลดลง

สำหรับวอลมาร์ทจะได้รับเงินจำนวน 3 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 4.1 พันล้านดอลลาร์ และคงถือหุ้นราว 42 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มธุรกิจร่วมกัน โดย นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ข้อตกลงนี้จะสร้างความเปลี่ยนเเปลงในเรื่องค้าปลีก ซึ่งจะเพิ่มช่องทางการช็อปปิ้งออนไลน์ เเละสามารถต่อการกับคู่เเข่งได้อีกด้วย

ทั้งนี้ เซนส์บิวรี่ส์ กล่าวกับบีบีซี ว่า ผู้บริโภคจะไม่ได้รับผลกระทบเเต่อย่างใด เเละไม่มีเเพลนที่จะปิดร้านค้า “เเม้พวกเราจะต้องยกเลิกกิจการ ร้านค้าของพวกเราก็สามารถดำเนินการขายต่อไปได้”

โดย เซนส์บิวรี่ส์ เเละ Asda มีร้านค้าประมาณ 2,800 ร้าน เเละการรวมตัวกันในครั้งนี้ เซนส์บิวรี่ส์ กล่าวว่า จะสามารถเพิ่มรายได้มากถึง 500 ล้านปอนด์ เเละผลิตภัณฑ์หลายอย่างราคาอาจลดลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวเกิดจากการเเข่งขันด้านค้าปลีกที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเติบโตของอเมซอนที่ส่งผลกระทบโดยตรง เเละคู่เเข่งอย่าง “เทสโก้” เสนอซื้อกิจการบริษัท “บุ๊คเกอร์” (Booker) ยักษ์ธุรกิจค่าส่งของอังกฤษ ด้วยเม็ดเงินสูงถึง 3,700 ล้านปอนด์ พร้อมประกาศตั้งเป้าขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารของประเทศ ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบ