สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า “ไป่ตู้” (Baidu) เซิร์ชเอ็นจินยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ระบุว่าจะขายสัดส่วนการถือหุ้นในธุรกิจบริการทางการเงินประมาณ 1.9 พันล้านดอลลาร์ให้แก่กลุ่มที่นำโดย TPG Capital Management LP และ Carlyle Group LP ขณะที่กำลังหาทุนสนับสนุนการจัดตั้ง บริษัทฟินเทคในจีน
การลงทุนนี้จะทำให้ไป่ตู้สามารถขึ้นนำคู่เเข่งอย่างอาลีบาบา เเละ เทนเซนต์ อีกทั้งยังช่วยผลักดันให้ไป่ตู้เเสวงหารายได้นอกเหนือจากธุรกิจหลักอย่างอินเตอร์เน็ต โดยข้อตกลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลจีนมีการกระชับกฎระเบียบเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อเพื่อควบคุมการธนาคารและผลักดันให้ธนาคารต่างๆลดหนี้ลง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
สำหรับกลุ่มบริการทางการเงินของไป่ตู้ (Baidu FSG) ใช้ระบบการชำระเงินเเบบ Baidu Wallet เป็นบริการสินเชื่อออนไลน์และแพลตฟอร์มการจัดการความมั่งคั่งออนไลน์ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของใบอนุญาตทางการเงินขนาดเล็กหลายอย่าง เช่น ใบอนุญาตการชำระเงินของบุคคลที่สาม และใบอนุญาตการขายกองทุน ภายหลังการขายไป่ตู้จะเหลือสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 42 เปอร์เซ็นต์
กว่าง จู รองประธานอาวุโสของไป่ตู้ และผู้จัดการทั่วไปของธุรกิจบริการทางการเงินในปัจจุบันจะกลายเป็นผู้บริหารสูงสุดของ Du Xiaoman Baidu ซึ่งกล่าวในแถลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่า
“ในอนาคต FinTech Du Xiaoman จะช่วยยกระดับความสามารถด้านเทคโนโลยีของ Baidu AI ให้เป็นพันธมิตรกับสถาบันการเงินและให้บริการทางการเงินที่น่าเชื่อถือ รวมถึงเป็นเทคโนโลยีแก่ผู้บริโภคในประเทศจีน”
นอกจากนี้ รอยเตอร์สรายงานในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ว่า ผู้ให้บริการเครื่องมือค้นหาของจีนกำลังแสวงหานักลงทุนรายใหม่ สำหรับหน่วยงานด้านการเงินที่ถือหุ้นทั้งหมดในข้อตกลงมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์
สำหรับ Baidu FSG เปิดตัวในปี 2015 มียอดเงินกู้ 28 พันล้านหยวน หรือประมาณ 4.42 พันล้านดอลลาร์ เมื่อสิ้นปี 2017 ที่ผ่านมา