สภาผู้เเทนราษฏรจอร์เเดน มีมติยกเลิกกฎหมายให้ผู้ข่มขืนหลีกเลี่ยงการได้รับโทษหากเเต่งงานกับเหยื่อ ภายหลังมีการเรียกร้องจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนมานานหลายเดือน อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวยังต้องได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาเเละสมเด็จพระราชาธิบดี อับดุลเลาะห์ กษัตริย์เเห่งจอร์เเดน ก่อนจะบังคับใช้ได้จริง
โดยกฎหมายดังกล่าวอยู่ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 308 ว่าด้วยการที่ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนอาจหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาได้ หากยอมแต่งงานกับผู้เสียหายและไม่หย่าร้างกันภายในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี ทั้งนี้ ในช่วงปี 2010 – 2013 มีคดีข่มขืนกว่า 159 คดี ได้รับการหลีกเลี่ยงการลงโทษจากรัฐ เนื่องจากการตกลงเเต่งงาน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ขณะที่นายฮานี อัล-มุลกี นายกรัฐมนตรีจอร์แดน กล่าวว่ารัฐบาลสนับสนุนการยกเลิกมาตราดังกล่าวเพื่อความเสมอภาคของประชาชน
“นี่คือชัยชนะของการเคลื่อนไหวของพลังสิทธิสตรีเเละสิทธิมนุษยชนในจอร์เเดน” นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีกล่าวกับสำนักข่าวเอพี
อย่างไรก็ตาม ฮิวเเมนไรท์วอชต์ ระบุว่า ในปัจจุบันยังคงมีอีก 8 ประเทศในโซนตะวันออกกลางที่ยังคงใช้กฎหมายที่เอื้อต่อผู้กระทำความผิดดังกล่าว เช่น อัลจีเรีย อิรัก คูเวต ลิเบีย เเละซีเรีย รวมไปถึง ดินเเดนปาเลสไตน์
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของจอร์แดนมีขึ้น 1 สัปดาห์หลังสภาผู้แทนราษฎรของตูนิเซียยกเลิกกฎหมายให้คนร้ายคดีข่มขืนรอดพ้นจากการรับโทษตามกฎหมาย หากแต่งงานกับผู้เสียหาย
