รัฐบาลสหรัฐขยายเวลาเจรจาเรื่องการเจรจาเกี่ยวกับการปรับขึ้นกำแพงภาษีเหล็กและอลูมิเนียมกับแคนาดา เม็กซิโก และสหภาพยุโรป(อียู) ออกไปอีก 30 วัน โดยจะมีการเปิดเจรจารอบใหม่ในสัปดาห์หน้า พร้อมกับประกาศว่าสามารถหาข้อยุติในการเจรจาเรื่องหลักการด้านภาษีกับอาร์เจนตินา บราซิล และออสเตรเลียได้แล้ว โดยในส่วนของ 3 ประเทศจะมีการสรุปผลการเจรจาในเร็วๆ นี้
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศปรับเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กของสหรัฐขึ้น 25 เปอร์เซนต์ และอลูมิเนียม 10 เปอร์เซนต์ ทำให้หลายประเทศเรียกร้องให้สหรัฐยกเว้นภาษีนำเข้าดังกล่าวเป็นการชั่วคราว ซึ่งรวมถึงแคนาดา เม็กซิโก และอียู
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
อย่างไรก็ดีจีน ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการขึ้นกำแพงภาษีของสหรัฐครั้งนี้ไม่ได้รับการยกเว้นใดๆ และได้งัดมาตรการตอบโต้โดยขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าหลากหลายชนิดจากสหรัฐเป็นการตอบโต้ ซึ่งทำให้ทรัมป์ประกาศเพิ่มกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกหลายประเภท จนทำให้โลกหวั่นเกรงว่า 2 ประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด 2 อันดับต้นของโลกกำลังเผชิญหน้ากันในสงครามการค้า และนำไปสู่ความตึงเครียดครั้งใหม่ระหว่างกันขึ้น
แถลงการณ์จากทำเนียบขาวระบุว่า ในการเจรจาทั้งหมดนี้ รัฐบาลสหัฐมุ่งเน้นความสำคัญไปที่การกำหนดโควต้าเพื่อที่จะควบคุมการนำเข้า ป้องกันการเปลี่ยนถ่ายสินค้า และปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติของสหรัฐ
ทั้งนี้ แคนาดาและเม็กซิโกได้รับการยกเว้นการปรับขึ้นอัตราภาษีชั่วคราวซึ่งจะยุติลงในวันที่ 1 เมษายนนี้ โดยระหว่างนั้นสหรัฐได้เปิดเปิดเจรจากับประเทศที่อยู่ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอเมเริกาเหนือ(นาฟตา) รวมถึงอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล และอียู
ที่มา: มติชนออนไลน์