นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า เเหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า “ฮัสโบร” (Hasbro) ผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของโลก ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการบันเทิง เเละการจัดจำหน่ายสินค้าเด็ก รวมทั้งตัวละครจาก “พาวเวอร์ เรนเจอร์” (POWER RANGERS) จาก Saban Entertainment ประมาณ 520 ล้านดอลลาร์ ในรูปเเบบเงินสดและการเข้าถือหุ้น
ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ฮัสโบร มีฐานการผลิตที่มั่นคง ได้แก่ My Little Pony, Monopoly และ The Transformers เเละพยายามที่จะลดการสูญเสียจากการล้มละลายของทอย อาร์ อัส เมื่อปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากการผลิตของเล่นและภาพแอ็คชั่นแล้ว ฮัสโบรยังได้รับผลกำไรจากแฟรนไชส์ดังกล่าว ผ่านการผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ทีวี เพื่อกระจายรายได้นอกเหนือจากยอดค้าปลีก
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- หุ้นกู้ออกใหม่ 12 บริษัทแห่ขายเดือน เม.ย.นี้ จ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 7.40%
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
ข้อตกลงระหว่างฮัสโบร และ Saban Entertainment ซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิ์พาวเวอร์ เรนเจอร์ จะมีการประกาศให้เร็วที่สุด สำหรับพาวเวอร์ เรนเจอร์ เปิดตัวในรายการ Mighty Morphin Power Rangers เมื่อปี 1993 โดย Haim Saban เจ้าของ Saban Entertainment
จากการเปิดตัวดังกล่าวก่อให้เกิดการทำสินค้าอื่นๆ โดยพาวเวอร์ เรนเจอร์ มียอดเข้าชมทั่วโลกเมื่อปีที่ผ่านมา กว่า 142 ล้านดอลลาร์ เเละต้นปีที่ผ่านมา ฮัสโบรเเละสบัน ได้ลงนามข้อตกลงในการผลิตของเล่นจากตัวละครในเรื่องพาวเวอร์ เรนเจอร์
อย่างไรก็ตามสัปดาห์ที่แล้ว ฮัสโบรรายงานการขาดทุนสุทธิที่เกิดจากบริษัท จำนวน 112.5 ล้านดอลลาร์หรือ 90 เซนต์ต่อหุ้นในไตรมาสแรกสิ้นสุดวันที่ 1 เมษายนเทียบกับกำไร 68.6 ล้านเหรียญหรือ 54 เซนต์ต่อหุ้นเมื่อปีที่แล้ว
นอกจากนี้เมื่อปีที่ผ่านมา ฮัสโบรได้เสนอซื้อกิจการ “แมทเทล” (Mattel) บริษัทผลิตของเล่นอันดับ 1 อีกครั้ง เเละในขณะนั้นหากการดีลสำเร็จจะเกิดผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ที่ครองลิขสิทธิ์สินค้ายอดฮิต ทั้งตุ๊กตาบาร์บี้ รถฮอตวีล มายลิตเติล โพนี่ เกมเศรษฐีโมโนโพลี่ ฯลฯ ไว้ด้วยกัน และจะมีอำนาจต่อรองในวงการสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน