สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “เคมบริดจ์ อนาไลติกา” (Cambridge Analytica) บริษัทที่ปรึกษาทางการเมืองชื่อดัง ประกาศปิดกิจการเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากกรณีอื้อฉาวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาด้วยการนำข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 87 ล้านคนไปใช้ในการเอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้งของประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” แห่งสหรัฐอเมริกา
โดย Clarence Mitchell โฆษกบริษัทฯได้ออกแถลงการณ์บนเว็บไซต์ระบุว่า ” ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัทฯตกเป็นจำเลยในข้อกล่าวหาหลายอย่าง ถึงแม้บริษัทจะพยายามแก้ไข แปละยืนยันว่าบริษัทนั้นได้ทำตามหลักของกฎหมาย และเป็นไปตามหลักจริยธรรม แต่การรายงานข่าวของสื่อนั้นได้ทำให้บริษัทเสียลูกค้าไปเพราะสูยเสียความเชื่อมั่น เป็นผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้”
นอกจากนี้ในแถลงการณืยังระบุอีกว่า SCL Elections บริษัทแม่ของเคมบริดจ์ แอนะไลติก้า ก็จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการยื่นข้อล้มละลายเช่นเดียวกัน
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- แจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท จุลพันธ์ชงบอร์ดชุดใหญ่ 27 มี.ค.นี้
- เปิดไทม์ไลน์ แจกเงิน 10,000 ลงทะเบียนเมื่อไหร่ เงื่อนไขเป็นยังไง
ทั้งนี้หลังจากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น “มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” ซีอีโอเฟซบุ๊ก ก็ได้เข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการยุติธรรมและพาณิชย์ วุฒิสภา สหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงต้นเดือนเม.ยที่ผ่านมา และได้เพิ่มระบบป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >> บทเรียนสำคัญวงการ “บิ๊กดาต้า” หลัง “เฟซบุ๊ก” ปล่อยข้อมูลรั่วไหล