เยอรมนีเร่งให้สัญชาติผู้ย้ายถิ่น แก้ปัญหาขาดแรงงาน-ประชากรอายุมาก

เยอรมนี เบอร์ลิน
บรรยากาศบริเวณอาคารรัฐสภาเยอรมนี

การโยกย้ายถิ่นฐานเป็นเทรนด์ใหญ่ของโลกที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นผู้คนต้องการแสวงหาโอกาสในประเทศที่พวกเขามองว่าน่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าอยู่ในประเทศของตัวเอง ขณะที่ประเทศปลายทางเองก็ต้องการเพิ่มประชากรเพราะขาดแคลนคนทำงาน หรือกรณีที่แย่กว่าคือผู้อพยพหนีภัยสงครามเข้าไปพึ่งพิงประเทศอื่นที่เปิดต้อนรับ

ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างซึ่งสรุปได้ว่า เมื่ออุปสงค์กับอุปทานสอดคล้องกัน การโยกย้ายประเทศก็เพิ่มขึ้น และหลาย ๆ กรณีก็นำไปสู่การได้สถานะ “พลเมือง” หรือการได้ “สัญชาติ” ในที่สุด

หนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนที่อยากโยกย้ายถิ่นฐานคือประเทศพัฒนาแล้วในทวีปยุโรป โดยเฉพาะในกลุ่มสหภาพยุโรป หรือ “อียู” และหนึ่งประเทศที่เวลคัมผู้โยกย้ายถิ่นฐานมาก ๆ ก็คือ เยอรมนี

เพิ่งมีข้อมูลออกมาจากการเปิดเผยของสำนักงานสถิติส่วนกลางแห่งเยอรมนี เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เมื่อปีที่แล้ว (2023) เยอรมนีให้สัญชาติแก่ผู้โยกย้ายถิ่นฐาน 200,100 คน จาก 157 ประเทศ ซึ่งถือเป็นจำนวนการให้สัญชาติสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2000 โดยเพิ่มขึ้น 30,100 ราย หรือ 19% จากปี 2022 เป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2022 ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านั้นแล้ว 28%

จำนวนผู้ได้รับสัญชาติเยอรมันที่เพิ่มขึ้นมากในปีหลัง ๆ นี้ มีปัจจัยสำคัญมาจากการที่ชาวซีเรียจำนวนมากที่อพยพเข้าสู่เยอรมนีในระหว่างปี 2014-2016 ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเป็นพลเมืองเยอรมันได้แล้ว พวกเขาจึงได้รับสถานะ “พลเมือง” ตามที่กฎหมายกำหนด

ในปี 2023 มีกลุ่มผู้อพยพจากซีเรีย 75,500 คน ที่ได้รับการแปลงสัญชาติเป็นเยอรมัน คิดเป็น 38% ของผู้ได้รับสัญชาติทั้งหมด จำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้น 56% จากปี 2022 ทั้งนี้ พวกเขาใช้เวลาเฉลี่ย 6.8 ปีในเยอรมนี ก่อนที่จะได้สถานะเป็นพลเมือง รองจากชาวซีเรียแล้วก็เป็นพลเมืองของตุรกีและอิรักราว 10,700 คน เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดที่ได้รับสัญชาติเยอรมันในปี 2023

ADVERTISMENT

พลเมืองใหม่ที่ได้รับสัญชาติเยอรมันในปี 2023 มีอายุเฉลี่ย 29.3 ปี น้อยกว่าอายุเฉลี่ยของประชากรโดยรวมของเยอรมนีอย่างมีนัยสำคัญ และพลเมืองใหม่ส่วนใหญ่เป็น “เพศชาย” ด้วย

พลเมืองใหม่ของเยอรมนีที่อายุน้อยน่าจะช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานของเยอรมนี และช่วยปรับเปลี่ยนโครงสร้างประชากรของเยอรมนีให้เป็นสังคมที่หนุ่มสาวลงได้ และหากแนวโน้มการให้สัญชาติเยอรมันยังคงเพิ่มขึ้นเช่นนี้ต่อไปอีกหลาย ๆ ปี ปัญหาขาดแคลนแรงงานและประชากรอายุมากของเยอรมนีก็น่าจะเบาบางลง

ณ สิ้นปี 2022 เยอรมนีมีประชากร 84.36 ล้านคน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 44.6 ปี เป็นประเทศที่อายุเฉลี่ยของประชากรสูงอันดับต้น ๆ ของโลก

เยอรมนีตระหนักดีถึงปัญหาและความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาคนจากต่างประเทศ จึงได้ผ่อนปรนกฎเกณฑ์การให้สัญชาติแก่ชาวต่างชาติให้ง่ายขึ้นด้วย เพื่อที่จะดึงดูดแรงงานมีทักษะเข้าประเทศ-แก้ปัญหาขาดแคลนคนทำงาน

ก่อนหน้านี้ เยอรมนีกำหนดให้ชาวต่างชาติยื่นขอสัญชาติได้ก็ต่อเมื่อพำนักอยู่ในประเทศเยอรมนีติดต่อกันเกิน 8 ปี หรือกรณีพิเศษ 6 ปีหากเป็นผู้มีความสามารถพิเศษ แต่กฎหมายใหม่ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 27 มิถุนายน 2024 นี้ กำหนดให้ชาวต่างชาติขอสัญชาติเยอรมันได้หลังจากพำนักอยู่ในเยอรมนีติดต่อกันเกิน 5 ปี และในกรณีผู้มีความสามารถพิเศษให้ยื่นขอได้หลังจากพำนักติดต่อกันเกิน 3 ปีเท่านั้น อีกทั้งยังอนุญาตให้ถือสัญชาติเยอรมันโดยไม่ต้องสละสัญชาติเดิมด้วย

ส่วนเด็กที่เกิดในประเทศเยอรมนีจะได้สัญชาติโดยอัตโนมัติ หากพ่อหรือแม่ (คนใดคนหนึ่ง) พำนักอยู่ในเยอรมนี ติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปี ไม่ว่าพ่อหรือแม่จะได้สัญชาติเยอรมัน หรือยังไม่ได้ก็ตาม

คาดว่าเยอรมนีน่าจะได้เห็นผลลัพธ์จากการแก้กฎเกณฑ์ครั้งนี้ในอีกไม่หลายปีนัก