
“วินกรุ๊ป” กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ของเวียดนามกำลังระดมเงินจากธุรกิจอื่น ๆ ช่วยธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า “วินฟาสต์” ที่ขาดทุน และกระแสเงินสดติดลบ ล่าสุดมีข่าวว่ากำลังจะขายหุ้นธุรกิจศูนย์การค้า “วินคอม รีเทล” ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจหลักของเครือออกไปทั้งหมด
สำนักข่าวนิกเคอิเอเชีย (Nikkei Asia) รายงานเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2024 ว่า วินกรุ๊ป (Vingroup) กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ในเวียดนามกำลังขายธุรกิจหลัก และนำบางธุรกิจในเครือเข้าตลาดหุ้น เพื่อระดมทุนสำหรับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า วินฟาสต์ (VinFast) ซึ่งขาดทุนและกระแสเงินสดอิสระติดลบ
การที่วินกรุ๊ปผลักดันธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้านั้นทำให้ผลขาดทุนของวินฟาสต์กัดกร่อนรายได้ของเครือ และทำให้ผู้ถือหุ้นเกิดความกังวลเกี่ยวกับกระแสเงินสดในอนาคตของวินกรุ๊ป ซึ่งพบว่ามีการใช้จ่ายมากกว่าที่ได้รับ และมีรายงานว่าวินกรุ๊ปกำลังหารือเพื่อหาเงินทุนหรือรีไฟแนนซ์หนี้ 85% ที่ครบกำหนดชำระภายในสิ้นปีนี้ และมีการบรรลุข้อตกลงกับนักลงทุนเพื่อขยายเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐบางส่วนด้วย
วินกรุ๊ปกำลังเดินหน้าด้วยแผนการขาย วินคอม รีเทล (Vincom Retail) ซึ่งดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ (ศูนย์การค้า) ขนาดใหญ่ในกว่า 80 แห่งทั่วประเทศเวียดนาม ซึ่งหลายแห่งตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยมมีการสัญจรพลุกพล่าน
วินคอม รีเทล นั้นมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง มีกำไรสุทธิ 4.4 ล้านล้านด่อง (ประมาณ 6,370 ล้านบาท) ในปี 2023 เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อนหน้า
ณ ปัจุบัน วินกรุ๊ปถือหุ้นในวินคอม รีเทล ผ่านบริษัท เอสดีไอ เทรดดิง ดีเวลอปเมนต์ แอนด์ อินเวสต์เมนต์ (SDI Trading Development and Investment) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือวินกรุ๊ปที่ถือหุ้นในวินคอม รีเทล สัดส่วน 41.5%
ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2024 วินกรุ๊ปได้ขายหุ้น SDI ออกไปแล้วเป็นสัดส่วน 55% และคาดว่าจะขายหุ้นที่เหลือ 45% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งนั่นจะทำให้วินกรุ๊ปสิ้นสุดความเป็นเจ้าของ วินคอม รีเทล โดยคาดว่าราคาขายหุ้นทั้งหมดจะอยู่ที่ 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 55,100 ล้านบาท)
ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2019 วินกรุ๊ปได้ขายวินคอมเมิร์ซ (VinCommerce) ซึ่งทำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต ให้กับ มาซัน กรุ๊ป (Masan Group) ยักษ์ใหญ่ด้านอาหารในเวียดนามไปแล้ว
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา วินกรุ๊ปยังนำวินเพิร์ล (Vinpearl) ซึ่งทำธุรกิจรีสอร์ตหรู เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเพื่อระดมทุน
ด้านวินโฮมส์ (Vinhomes) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นหนึ่งธุรกิจหลักของวินกรุ๊ปกำลังแจกคูปองส่วนลด 350 ล้านดอง (ประมาณ 510,000 บาท) สำหรับซื้อรถยนต์ไฟฟ้าวินฟาสต์ให้แก่ผู้ซื้อบ้าน ซึ่งในปี 2023 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ของวินฟาสต์เกือบ 15% มาจากการซื้อโดยใช้คูปองส่วนลดดังกล่าว
อีกทั้งวินกรุ๊ปได้ใช้ธุรกิจรถแท็กซี่ไฟฟ้า GSM ที่ ฝ่าม เญิ้ต เวือง (Pham Nhat Vuong) ผู้ก่อตั้งวินกรุ๊ป เป็นเจ้าของสนับสนุนการขายรถยนต์ไฟฟ้าวินฟาสต์ด้วย โดยเชื่อว่าในปี 2023 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าวินฟาสต์กว่า 80% มาจากการซื้อของ GSM
นอกจากนั้น เวืองได้ให้คำมั่นด้วยว่าจะมอบเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ (73,570 ล้านบาท) ของเขาเองให้กับวินฟาสต์ และเมื่อในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เขาได้โอนหุ้นในบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่ วินอีเอส (VinES) ให้กับวินฟาสต์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของวินฟาสต์
“เราจะไม่ยอมแพ้กับวินฟาสต์” ฝ่าม เญิ้ต เวือง กล่าวในการประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อเดือนเมษายนที่กรุงฮานอย โดยเน้นย้ำว่ากลุ่มบริษัทของเขากำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องโดยมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้ วินฟาสต์ขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ 9,689 คันในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมปีนี้ เพิ่มขึ้น 5.4 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และยอดขายสะสมนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2021 อยู่ที่ราว 50,000 คัน ตอนนี้วินฟาฟสต์กำลังวางแผนที่จะสร้างโรงงานในอินเดียและอินโดนีเซีย โดยคาดว่าจะมีการลงทุนในปี 2024 เกิน 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 36,785 ล้านบาท)