“ทรัมป์” รับไม่แน่ใจ หารือ “คิม จอง อึน” เกิดหรือไม่ ยันกดดันปลดอาวุธนิวเคลียร์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐยอมรับว่า ขณะนี้มีความไม่ชัดเจนว่าการหารือระหว่างเขากับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือจะเดินหน้าต่อไปตามแผนการที่กำหนดไว้ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้หรือไม่ หลังจากเกาหลีเหนือออกมาขู่ว่าจะถอนตัวจากการเจรจาดังกล่าว

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกาหลีเหนือระบุว่าอาจจะไม่เข้าร่วมการเจรจาระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศที่ทั้งโลกกำลังจับตามอง หากสหรัฐยังคงเรียกร้องให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์เพียงฝ่ายเดียว การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือเพิ่งยกเลิกกำหนดการหารือกับเกาหลีใต้โดยกล่าวโทษว่าเป็นเพราะการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐและเกาหลีใต้ ที่ถือเป็นการแสดงท่าทีคุกคามต่อเกาหลีเหนือ

ทรัมป์ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าการหารือระหว่างผู้นำสหรัฐกับเกาหลีเหนือจะยังคงมีอยู่ต่อไปหรือไม่โดยระบุว่า เราจะได้เห็นกัน อย่างไรก็ดีเขายืนกรานว่าจะไม่ยอมถอยต่อข้อเรียกร้องที่ต้องการให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างแน่นอน

รายงานข่าวระบุว่าทีมผู้ช่วยของทรัมป์กำลังวิเคราะห์ว่า ท่าทีดังกล่าวของเกาหลีเหนือเป็นความพยายามที่จะสร้างอำนาจต่อรองหรือต้องการที่จะล้มการประชุมผู้นำระหว่างสองประเทศ อย่างไรก็ดีโฆษกทำเนียบขาวยังแสดงความคาดหวังว่าการประชุมดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้น แต่ก็ย้ำว่าประธานาธิบดีทรัมป์ได้เตรียมพร้อมสำหรับการหารือที่จะไม่โอนอ่อนให้กับใคร

หากมีการประกาศยกเลิกการหารือระหว่างผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือจริง ก็จะถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่สำหรับสิ่งที่อาจนับได้ว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของทรัมป์ และยังเกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกับที่ทรัมป์ได้ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซึ่งทำให้สหรัฐถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากนานาประเทศ รวมถึงเกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐได้ย้ายสถานเอกอัครราชทูตในอิสราเอลไปยังกรุงเยรูซาเลม จนทำให้เกิดการนองเลือดอย่างหนักบริเวณฉนวนกาซาตามมาอีกด้วย

 

ที่มา : มติชนออนไลน์