
บีบีซีรายงานถึงการเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) จัดขึ้นในวันนี้ (4 ก.ค.) ส่งผลต่ออนาคตของน้ำมันในทะเลเหนืออย่างไร
ย้อนไปเมื่อบีพี บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหราชอาณาจักรค้นพบน้ำมันในทะเลเหนือในปี 1970 เปรียบเหมือนเมืองอเบอร์ดีนของประเทศสกอตแลนด์ค้นพบทองคำ
การค้นพบแหล่งฟอร์ตีส์ ฟีลด์ (Forties Field) ขนาดใหญ่เป็นการเริ่มต้นของความเจริญรุ่งเรืองที่ทำให้เกิดการจ้างงานในเมืองแห่งนี้ กำไรสำหรับบริษัทพลังงานรายใหญ่และรายได้จากภาษีเข้ากระทรวงการคลัง รวมถึงเติมเชื้อเพลิงชาตินิยมด้วย ซึ่งรัฐบาลสหราชอาณาจักรยอมรับโดยเฉพาะว่าน้ำมันในทะเลเหนือมีศักยภาพที่จะนำไปสู่การประกาศเอกราชแยกตัวออกจากสหราชอาณาจักรของสกอตแลนด์ หนึ่งในชาติที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรป
แต่การผลิตน้ำมันในทะเลเหนือแห่งนี้ ถึงจุดสูงสุดเมื่อ 25 ปีที่แล้ว และในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้มีจุดโฟกัสที่การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงแหล่งขุมทรัพย์แห่งนี้ สู่พลังงานหมุนเวียน รวมถึงพลังงานลม คลื่น และโซลาร์
พรรคการเมืองหลักหลายพรรคของยูเค มีนโยบายบรรลุเป้าหมาย “เน็ตซีโร่” ซึ่งหมายถึงการที่ชาติต่าง ๆ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากชั้นบรรยากาศมากกว่าปล่อยเข้าไป
แต่เมื่อเป็นประเด็นเกี่ยวกับความเร็วของการเปลี่ยนแปลง จึงมีหลายเรื่องที่ต้องนำมาพิจารณา ไม่ว่าจะเป็น
นักสิ่งแวดล้อมกำลังเรียกร้องให้ลดการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล อาทิ เช่น น้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน ผู้นำอุตสาหกรรม สมาชิกสหภาพแรงงานการค้า และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นทั้งหมดล้วนกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของเศรษฐกิจต่อการเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็วไปยังโครงการพลังงานสีเขียวที่เข้มข้นมากขึ้น
สมาคมการค้าพลังงานนอกชายฝั่งแห่งสหราชอาณาจักร อย่าง Offshore Energies UK (Formerly Oil & Gas UK) ระบุว่า ภาคพลังงานสร้างเม็ดเงินเข้าเศรษฐกิจในปี 2022 มูลค่า 30,000 ล้านปอนด์ หรือราว 1 ล้านล้านบาท สร้างงาน 200,000 ตำแหน่ง รวมถึง 90,000 ตำแหน่งในสกอตแลนด์
แอนดี้ เชอร์เรฟฟ์ ผู้ทำงานที่สมาคมการค้าพลังงานนอกชายฝั่งกล่าวว่า หากหยุดการผลิตน้ำมันและก๊าซลงทันที ทำให้พื้นที่นี้ถึงขั้นล้มละลาย สถานที่นี้เสียหายอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากเป็นแหล่งรายได้นำมาเลี้ยงลูกและส่งลูกเรียน และหากไม่สามารถบริหารจัดการแหล่งพลังงานแห่งนี้ในช่วงเปลี่ยนผ่านได้สำเร็จ ผลที่ตามมาคือความยากลำบาก
อีกคำถามคือบริษัทน้ำมันและก๊าซกำลังดิ้นรนอยู่ใช่หรือไม่
ในปี 2022 หลังจากราคาน้ำมันโลกถูกผลักให้สูงขึ้น ผลจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย บริษัทบีพี สร้างเม็ดเงินราว 1 ล้านล้านบาท บริษัทเชลล์ได้กำไรราว 1.4 ล้านล้านบาท ทำรายได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่ก่อตั้งมา 115 ปีของเชลล์
ปัจจุบันรัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมจึงใช้นโยบายภาษี Windfall Tax คือการเรียกเก็บภาษีจากบริษัทที่ได้ประโยชน์จากสิ่งซึ่งบริษัทไม่ต้องรับผิดชอบ
-พรรคอนุรักษนิยมผลักดันอัตราภาษีโดยรวมในการผลิตน้ำมันและก๊าซขึ้นสู่ 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะมีผลไปจนถึงอย่างน้อยเดือน มี.ค. 2029 หากพรรคชนะการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีนี้ (4 ก.ค.)
-พรรคแรงงานต้องการเพิ่มอัตราภาษีขึ้นสู่ 78 เปอร์เซ็นต์ และจะยกเลิกการลดหย่อนภาษีการลงทุนในบางรายการด้วย
-พรรคลิเบอรัล เดโมแครต เสนอเก็บภาษี windfall tax ผู้ผลิตและผู้ค้าน้ำมันและก๊าซที่ทำกำไรได้อย่างมหาศาลเพียงครั้งเดียวในอัตราที่เหมาะสม
-พรรคสกอตติช เนชั่นแนล ระบุว่า พรรคสนับสนุนการเก็บภาษี Windfall Tax ในอัตราที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน และเสริมว่า การพิจารณาเพิ่มอำนาจการจัดเก็บภาษีควรทำผ่านรัฐสภาสกอตแลนด์
นายไรอัน ไครห์ตัน จากหอการค้าแห่งอเบอร์ดีนและแกรมเปียน (Aberdeen and Grampian Chamber of Commerce) กล่าวว่า ภาษี Windfall Tax ควรเป็นการจ่ายจบครั้งเดียว แต่ขณะนี้ถูกขยายเวลาการจัดเก็บมา 6 ปีแล้ว และกำลังส่งผลกระทบต่อการสร้างงาน
และแม้กระทั่งกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการยกเลิกลดหย่อนภาษีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะทำให้บริษัทไม่สามารถผันผลกำไรไปลงทุนโครงการใหม่ ๆ รวมถึงสร้างงานมากขึ้นให้เศรษฐกิจที่นี่ได้
กลายเป็นประเด็นร้อนในการคว้าที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในประเทศสกอตแลนด์ที่มีอยู่ 3 ที่นั่ง ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งของพรรคสกอตติช เนชั่นแนล หลังจากสหราชอาณาจักรมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ท้าทายพรรคอนุรักษนิยมที่ปัจจุบันครองพื้นที่นี้อยู่
แต่นักการเมืองเผชิญกับคำถามพื้นฐานที่สำคัญมากขึ้นเกี่ยวกับสัดส่วนพลังงานด้วย อย่างแรก ใครเป็นเจ้าของแหล่งพลังงานธรรมชาติของสหราชอาณาจักร และใครควรทำกำไรจากทรัพยากรทางธรรมชาติเหล่านี้