อิทธิพล “สินค้าจีน” ต่อกลุ่ม G7 ญี่ปุ่นพึ่งพาพญามังกรมากสุด

China_Japan

แม้ว่าไม่ต้องมีสถิติหรือรายงานอะไรใหม่ ก็เป็นอันรับรู้กันเกือบจะทั่วโลกอยู่แล้วว่า “จีน” เป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าไปครองตลาดโลกในหลายรายการสินค้า

และแม้ว่าประเทศต่าง ๆ เกือบทั้งโลกจะกังวลกับการที่สินค้าจีนไหล่บ่าเข้าไปกินตลาดมากเพียงใด แต่ก็ต้องยอมรับว่า หลายประเทศยังมีความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาสินค้าจีนอย่างยากที่จะเลี่ยง แม้แต่ประเทศในกลุ่ม G7 หรือกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกที่เป็นหัวหมู่ในการป้องกันการทะลักของสินค้าจีน ก็ยังคงพึ่งพาสินค้าจีนในระดับสูง

แล้วถ้าจะไปดูข้อมูลอย่างจริง ๆ จัง ๆ ก็มีรายงานที่รัฐบาลญี่ปุ่นที่เผยแพร่ออกมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ เผยให้เห็นว่า ประเทศใน G7 พึ่งพาจีนมากเพียงใด

รายงานนี้วิเคราะห์ข้อมูลการค้าปี 2022 ในสินค้าราว 4,300 รายการ ที่นำเข้าโดยญี่ปุ่น สหรัฐ และเยอรมนี รวมถึงกลุ่ม G7 โดยรวม โดยใช้ดัชนี Herfindahl-Hirschman Index (HHI) ซึ่งเป็นดัชนีที่วัดความเข้มข้นของตลาดเป็นตัวชี้วัด

ค่าดัชนีที่มากกว่า 50 สำหรับผลิตภัณฑ์ที่กำหนด หมายความว่า ประเทศนั้นมีการนำเข้าสินค้าจากประเทศเดียวคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของการนำเข้าทั้งหมด หรือพูดให้เข้าใจง่ายในมุมกลับกันคือ ประเทศที่ค่า HHI ต่ำ เป็นประเทศที่มีความหลากหลายของแหล่งนำเข้าสินค้า ซึ่งหมายถึงมีความยืดหยุ่นของการค้าและห่วงโซ่อุปทานมากกว่า

ประเทศที่พึ่งพาสินค้าจากประเทศเดียวมากที่สุด หรือมีความหลากหลายของซัพพลายน้อยที่สุดในกลุ่ม G7 คือ ญี่ปุ่น และค่อนข้างแน่นอนว่า “จีน” คือประเทศต้นทางสินค้าที่ครองสถานะเป็น “ซัพพลายเออร์รายเดียว” ของญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าอุตสาหกรรมหลายประเภทจากจีนมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม

ADVERTISMENT

ค่า HHI ของญี่ปุ่นอยู่เหนือ 50 ในสินค้าเกือบ 40% ของรายการสินค้าทั้งหมด ซึ่งมีตั้งแต่คอมพิวเตอร์ไปจนถึงสารเคมี หมายความว่ารายการสินค้าเหล่านั้นพึ่งพาการนำเข้าจากประเทศเดียวสูง

ขณะที่เยอรมนีมี 10% ของรายการสินค้าทั้งหมดที่ค่า HHI อยู่เหนือ 50 สำหรับสหรัฐมีรายการสินค้า 20% ของทั้งหมดที่ HHI สูงกว่า 50 และในภาพรวมของกลุ่ม G7 มีสินค้า 5% ของรายการสินค้าทั้งหมดเท่านั้นที่ HHI สูงกว่า 50

ADVERTISMENT

มีสินค้า 1,406 รายการที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากจีนเป็นมูลค่ามากกว่า 50% ของมูลค่าการนำเข้ารวมของสินค้านั้น ๆ ซึ่ง 1,406 รายการนี้คิดเป็นมากกว่า 30% ของสินค้าทั้งหมด 4,300 รายการที่อยู่ในการศึกษาดังกล่าว

ส่วนสหรัฐมีสินค้า 567 รายการที่นำเข้าจากจีนเกิน 50% ของมูลค่ารวม ส่วนเยอรมนีมีน้อยสุดในสามประเทศนี้ จำนวน 221 รายการ

สินค้าที่ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาจีนอย่างหนัก ได้แก่ คอมพิวเตอร์แล็ปทอป เครื่องปรับอากาศ เคมีอินทรีย์ และแร่หายาก โดยการนำเข้าเครื่องใช้ภายในบ้านของญี่ปุ่น เช่น แล็ปทอป และเครื่องซักผ้า สัดส่วนมากกว่า 90% เป็นการนำเข้าจากประเทศจีน และจีนยังเป็นซัพพลายเออร์ฟอสฟอรัสรายใหญ่ที่ญี่ปุ่นนำเข้าเพื่อทำปุ๋ยด้วย

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพยายามหลายทางที่จะแก้ไขสภาพการพึ่งพาดังกล่าว และทำให้อุปทานมีความหลากหลาย-มีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งการทำงานร่วมกับประเทศพันธมิตรอย่างเช่น สหรัฐ และฟิลิปปินส์ ในการทำงานเพื่อลดการพึ่งพาจีนลง