สื่อต่างประเทศรายงานว่า ยอดขายร้านค้าปลีกในฮ่องกงครึ่งปีแรกตกลงร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สร้างความผันผวนให้กับเศรษฐกิจในฮ่องกง
โดยสำนักงานสถิติระบุว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ยอดขายค่อนข้างซบเซา โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.1 % แต่เพิ่มขึ้นตลอดสี่เดือนที่ผ่านมาในภาคการค้าปลีก
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ด้าน “ทอมสัน เฉิง วาย-ฮั่ง” ประธานสมาคมผู้ค้าปลีก เผยว่า ภาพรวมของยอดขายยังคงที่ อาจเป็นผลมาจากพายุและสภาพอากาศ เพราะในเดือนมิถุนายนมีฝนตกตลอด เเม้จะกังวลกับภาพรวมดังกล่าว แต่ยอดขายยังคงเกินจากที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมดังกล่าวประกาศโดย “พอล ฉัน” เลขานุการการเงิน เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลอาจปรับการประเมินการเติบโตของฮ่องกงจากร้อยละ 2 เป็นร้อยละ 3 หากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น
สำหรับโฆษกรัฐบาลแถลงว่า การจ้างงานจะช่วยดันความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในประเทศให้ดีขึ้น ทั้งนี้มองว่าการฟื้นตัวของยอดขายร้านค้าปลีกยังคงขึ้นอยู่กับ การจับจ่ายของนักท่องเที่ยวและ การปรับปรุงทางเศรษฐกิจ ซึ่งตัวเลขยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยชี้ให้เห็นว่า การท่องเที่ยวลดลงส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดการค้าปลีก
ข้อมูลจากคณะกรรมการการท่องเที่ยวฮ่องกงชี้ชัดในเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวในฮ่องกงน้อยกว่าปีก่อนถึง 1.9 % โดยปีนี้นักท่องเที่ยวจากจีนลดลงกว่า 3.4% ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นเเหล่งรายได้หลักของการค้าปลีก
ขณะที่ร้านค้าปลีกด้านยานยนต์และอะไหล่ยอดขายพุ่งขึ้นถึง 7.3 % แต่ร้านค้าปลีกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ถ่ายภาพยอดขายลดลงถึง 8.1 % นับเป็นยอดการติดลบที่น้อยที่สุดในรอบ 20 เดือนหลังจากที่ยอดขายติดลบติดต่อกัน
ประธานสมาคมผู้ค้าปลีก มองว่า ในครึ่งปีหลังนี้ร้านค้าปลีกจะฟื้นตัว เนื่องจากการมีเทศกาลมากขึ้น นักท่องเที่ยวรวมถึงผู้บริโภคจะใช้จ่ายมากขึ้นกับสินค้า
“สมาชิกในกลุ่มผู้ค้าปลีกของเรามองยอดขายในอีก 2-3 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้น เนื่องจากพวกเราเชื่อว่า ผู้คนจะจับจ่ายใช้เงินมากขึ้นกับสินค้าขายปลีก” เฉิง วาย-ฮั่ง กล่าวทิ้งท้าย