ตากล้องเก๋า “เดอะนิวยอร์กไทมส์” จับภาพกระสุนวิ่งเร็วจี๋ ผ่านศีรษะทรัมป์ไว้ได้ !

ช่างภาพมากประสบการณ์ของหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ สื่อทรงอิทธิพลของสหรัฐจับภาพวิถีกระสุนเคลื่อนผ่านศีรษะทรัมป์ไปอย่างรวดเร็วไว้ได้ ด้านอดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอวิเคราะห์ความเป็นไปได้

วันที่ 15 กรกฎาคม 2024 ซีเอ็นเอ็นและเดอะนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า นายดั๊ก มิลส์ (Doug Mills) ช่างภาพเดอะนิวยอร์กไทมส์ผู้มากประสบการณ์ถ่ายภาพวินาทีกระสุนเคลื่อนผ่านศีรษะนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐไปอย่างรวดเร็ว ขณะกำลังบันทึกการปราศรัยหาเสียงของนายทรัมป์ เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ซึ่งกลายเป็นความพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ

จากการประเมินภาพถ่ายของนายไมเคิล แฮร์รีแกน (Mitchael Harrigan) อดีตสายลับพิเศษของสำนักสืบสวนสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ ซึ่งทำงานให้องค์กรมา 22 ปี ระบุว่า อาจแสดงถึงการเข้าแทนที่อากาศที่เกิดจากลูกกระสุนพุ่งออกไป นายแฮร์รีแกนกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากตรวจสอบภาพที่มีความคมชัดสูง ซึ่งนายมิลส์ถ่ายมาได้จากที่เกิดเหตุ

“มุมดูเหมือนอยู่ต่ำลงเล็กน้อยที่จะเคลื่อนผ่านหู แต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ หากมือยิง ยิงกระสุนหลายนัด” นายแฮร์รีแกนวิเคราะห์ และใช้การคำนวณการเคลื่อนที่ของวัตถุอย่างง่ายแสดงว่า การถ่ายภาพกระสุนเหมือนอย่างที่นายมิลส์อาจทำนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปได้

เดอะนิวยอร์กไทมส์ (คลิกเพื่อดูภาพ) รายงานเพิ่มเติมว่า ช่างภาพมิลส์ใช้กล้องถ่ายรูปโซนี่ที่สามารถจับภาพได้มากถึง 30 รูปต่อวินาที เขาถ่ายภาพเหล่านี้ด้วยชัตเตอร์ความเร็ว 1/8,000 วินาที หมายความว่าชัตเตอร์เปิดและปิดภายใน 1/8,000 วินาที ซึ่งรวดเร็วอย่างยิ่งตามมาตรฐานอุตสาหกรรมกล้องถ่ายรูป

ปัจจัยอื่นมาจากความเร็วของกระสุนจากอาวุธปืน ซึ่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเจอปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติชนิด AR-15 จากชายผิวขาวที่เสียชีวิตแล้ว ซึ่งเชื่อว่าคือมือปืน “หากผู้ต้องสงสัยกำลังยิงปืนไรเฟิลชนิด AR-15 ลำกล้อง .223 หรือกระสุนขนาด 5.56 มิลลิเมตรแล้ว กระสุนใช้เวลาเดินทางราว 3,200 ฟุตต่อวินาที หรือราว 975 เมตรต่อวินาที ณ ขณะที่กระสุนออกจากปากกระบอกปืน” นายแฮร์รีแกนกล่าว

กล้องส่วนใหญ่ที่ถูกใช้เพื่อถ่ายภาพกระสุนเคลื่อนที่นั้นต้องใช้กล้องที่มีความเร็วสูงโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ได้ใช้สำหรับการถ่ายภาพตามปกติ ดังนั้น การจับภาพกระสุนตามวิถีที่เห็นในภาพอาจเป็นหนึ่งในล้านชอต และเกือบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจับภาพนี้ได้ แม้มีคนรู้ว่ากระสุนกำลังพุ่งมา

ทั้งนี้ ก่อนเกษียณจากหน่วยเอฟบีไอ นายแฮร์รีแกนมีบทบาทนำในหน่วยฝึกอาวุธปืน และปัจจุบันทำงานเป็นที่ปรึกษาอุตสาหกรรมอาวุธปืน “ด้วยปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างที่กล่าวมา หากภาพถ่ายไม่ได้แสดงถึงวิถีกระสุนที่เดินทางผ่านอากาศเสียแล้ว ผมก็ไม่รู้แล้วว่าจะเป็นอะไรได้อีก”

ก่อนหน้านี้ นายมิลส์ซึ่งถ่ายภาพประธานาธิบดีมาหลายคนตั้งแต่ปี 1983 กล่าวว่า “ผมหวังที่จะได้ชอตที่ถูกต้อง” “ผมหวังว่าผมไม่ได้ถ่ายตัวเอง” นายมิลส์อยู่ห่างจากนายทรัมป์ไม่กี่ฟุตอธิบายเหตุลอบยิงอดีตประธานาธิบดี

มิลส์กล่าวว่า ในทีแรกผมคิดทันทีเลยว่า “ผมอาจถูกยิงไหม”

นายมิลส์กล่าวว่า ผมไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์ที่น่าหวาดกลัวเท่าครั้งนี้ ผมรายงานข่าวประธานาธิบดีมาหลายคนเป็นเวลา 35-40 ปี ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเห็นเลยเหตุการณ์แบบนี้