เมื่อผลิตพลังงานหมุนเวียนมากเกิน ค่าไฟฟ้าติดลบ คนใช้ไฟเฮ ผู้ผลิตกุมขมับ

ภาพ : Pixabay

เมื่อผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนมากเกินไม่ว่า พลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือพลังงานลมทำให้ปริมาณไฟฟ้ามากเกินดีมานด์ ผู้ผลิตผลิตไฟฟ้ามากกว่าที่ผู้ซื้อต้องการจะซื้อ ทำให้ผู้ผลิตต้องยอมขายไฟฟ้าในราคาติดลบแก่ผู้บริโภค เนื่องจากการหยุดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและเริ่มเดินเครื่องใหม่มีต้นทุนมากกว่า

การเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วของแผงโซลาและกังหันลม ถือเป็นปรากฏการณ์ไม่ปกติที่เกิดขึ้นบ่อย กำลังทำให้ราคาขายส่งไฟฟ้าติดลบบ่อยครั้งขึ้น แม้อาจทำให้อารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้ไฟดีขึ้น ซึ่งมีใบเสร็จค่าไฟพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมา แต่อาจทำลายการพัฒนาพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ที่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการต่อสู้ภาวะโลกร้อน

นายมาเทียส แวนเดนบูค ผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนจาก ฟร็องซ์ เรอนูลาเบลอ (France Renouvelables) สมาคมพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนในฝรั่งเศสกล่าวว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยอย่างมากนี้ ยากที่จะแก้ไขอย่างยิ่งสำหรับพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่ปริมาณการผลิตขึ้นกับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ควบคุมไม่ได้  อย่างวันไหนลมดีเป็นพิเศษ จะผลิตไฟฟ้าจากลมได้มากตามไปด้วยจนผลิตไฟฟ้าล้นเกิน ซึ่งจะเห็นได้ว่า การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนไม่ได้ขึ้นกับความต้องการใช้ไฟฟ้า

“ปรากฏการณ์นี้ทำให้เกิดอันตราย แม้กระทั่งวาทะที่อันตรายอย่าง พลังงานทดแทนไร้ประโยชน์” นายแวนเดนบูค กล่าว ซึ่งข้อมูลจากองค์การพลังงานระหว่างประเทศหรือไออีเอระบุว่า ในประเทศออสเตรเลียทางใต้ ราคาขายส่งไฟฟ้าติดลบ 20 เปอร์เซนต์นับตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งในช่วงครึ่งแรกของปีในหลายพื้นที่ เกิดราคาค่าไฟติดลบ

ยกตัวอย่าง อัตราของราคาค่าไฟติดลบต่อชั่วโมงในรัฐแคลิฟอร์เนียทางใต้ของสหรัฐเกิน 20 เปอร์เซนต์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากช่วงเดียวกันในปี 2023

ในช่วงครึ่งปีแรกในฝรั่งเศส มีราคาค่าไฟติดลบราว 5 เปอร์เซนต์ ทุบสติถิของเมื่อปีที่แล้ว จากข้อมูลของ RTE บริษัทที่ให้บริการระบบจ่ายไฟฟ้า

ADVERTISMENT

ในสวิตเซอร์แลนด์ ราคาค่าไฟติดลบดิ่งหกคะเมนตีลังกาไปไกลถึง -400 ยูโรต่อเมกะวัตต์ชั่วโมงเมื่อ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา หมายความว่า หากใครซื้อไฟฟ้าในชั่วโมงดังกล่าว จะได้เงินไป 400 ยูโรต่อไฟฟ้า 1 เมกะวัตต์ โดยราคาค่าไฟต่ำสุดดังกล่าวมักเกิดขึ้นตอนราวเที่ยงวันในช่วงฤดูร้อน เนื่องจากการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ในจุดสูงสุด

สัญญาณเตือน

เอเอฟพีรายงานว่า เทรนด์กำลังเร่งเร็วขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากดีมานด์ในยุโรปลงลดอย่างคาดไม่ถึง ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และปัจจัยจากสงครามในยูเครน ราคาค่าไฟกลายเป็นติดลบในตลาดขายส่งไฟฟ้า เมื่อมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอย่างเข้มข้น ขณะที่ดีมานด์หรือความต้องการใช้ไฟฟ้าอ่อนแอ

ADVERTISMENT

กริดไฟฟ้าหรือระบบจ่ายไฟฟ้าต้องรักษาความสมดุลไว้อย่างสม่ำเสมอ  กริดไฟฟ้าที่มากเกินไปทำให้ความถี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นได้จนเกินกว่าที่อุปกรณ์บางประเภทจะรับได้  ส่วนกริดไฟฟ้าที่น้อยเกินไปอาจทำให้ลูกค้าจำนวนหนึ่งหรือทุกคนสูญเสียไฟฟ้าหรือไฟฟ้าดับ

ปัจจุบันมีตัวเลือก/วิธีน้อยมากที่จะเก็บสะสมพลังงานซึ่งผลิตมาเกินเพื่อรอผลิตไฟฟ้าต่อไป  ดังนั้นผู้ผลิตต้องลดการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนจำนวนมากหยุดการผลิตเมื่อราคาค่าไฟใกล้จะติดลบ ซึ่งใช้เวลาหนึ่งนาทีที่จะหยุดการผลิตสำหรับไฟฟ้าที่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์  และสองหรือสามนาทีสำหรับไฟฟ้าที่มาจากกังหันลม

ไม่ทั้งหมดที่หยุดการผลิต

พลังงานหมุนเวียนสามารถควบคุมได้ แต่ขึ้นกับสัญญาการผลิต ผู้ผลิตบางรายจ่ายราคาขายไฟฟ้าคงที่ตามสัญญาหรือได้รับค่าชดเชยความเสียหายจากรัฐ หากราคาขายส่งไฟฟ้าต่ำกว่าระดับที่กำหนด

โรงงานเชื้อเพลิงฟอสซิลและพลังงานนิวเคลียร์สามารถปรับการผลิตสู่ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามการระงับการเดินเครื่องผลิตและเริ่มผลิตใหม่มีต้นทุนที่แพง

การผลิตพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมกำลังจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากหลายชาติเห็นพ้องในการประชุมด้านสภาพอากาศหรือ COP 28 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งตั้งเป้าเพิ่มความสามารถในการผลิตพลังงานหมุนเวียนอีกสามเท่าภายในปี 2030 เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะจำกัดอุณภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเปรียบเทียบกับระดับช่วงก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม

การที่ราคาค่าไฟติดลบเกิดขึ้นบ่อยถือเป็นสัญญาณเร่งด่วนว่า ความยืดหยุ่นของทั้ง ซัพพลายและดีมานด์เป็นสิ่งจำเป็น กรอบกฎระเบียบและการออกแบบตลาดที่เหมาะสมจะเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ดีมานด์สนองต่อการเก็บสะสมพลังงาน