ปูดข่าวเจรจาซื้อเครื่องบิน C-130 สหรัฐ ดีลทางทหารใหญ่สุดเวียดนาม อาจบรรลุในปีนี้ เล็งเพิ่ม F-16

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐและนายเหวียน ฝูจ่อง ผู้นำเวียดนาม ร่วมหารือที่สำนักงานใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามในกรุงฮานอย เมื่อวันที่ 10 กันยายน ปี 2023 (AFP)

แหล่งข่าวในวงดีลซื้อขายอาวุธเผยความคืบหน้า สหรัฐอเมริกาและเวียดนามอยู่ระหว่างเจรจาซื้อขายเครื่องบินซี-130 อาจบรรลุข้อตกลงปีนี้ ถือเป็นดีลทางทหารที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ขณะที่เวียดนามกำลังพยายามหาแหล่งซื้ออาวุธจากชาติอื่น นอกจากรัสเซีย

วันที่ 25 กรกฎาคม รอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวในวงเจรจาดีลซื้อขายอาวุธระหว่างสหรัฐและเวียดนามว่า สหรัฐอเมริกาและเวียดนามกำลังหารือเกี่ยวกับการขายเครื่องบินขนส่งทางทหารเฮอร์คิวลิส ซี-130 ของบริษัทล็อกฮีด มาติน (Lockheed Martin LMT.N) สัญญาณความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างอดีตศัตรูที่ใกล้ชิดมากขึ้น

การหารืออาจนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงซื้อขายในปีนี้ ซึ่งจะถือเป็นดีลทางทหารที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม นับตั้งแต่เคยประกาศต่อสาธารณะเมื่อสิ้นปี 2022 ซึ่งตั้งใจที่จะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร จากหลากหลายแหล่ง ซึ่งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมาพึ่งพาแต่รัสเซียอย่างหนัก

สำหรับเครื่องบินซี-130 สามารถบรรทุกทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ และเสบียงอื่น ๆ และจะส่งเสริมความสามารถด้านกลาโหมของประเทศในห้วงความตึงเครียดจากข้อพิพาทพรมแดนในทะเลจีนใต้กับจีนและชาติอื่น ๆ ในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น

สหรัฐอาจเสนอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการแก่เวียดนาม ส่วนหนึ่งของการขาย หนึ่งในแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐระบุว่า ความช่วยเหลือทางการเงินอาจมีมูลค่าถึงหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ครอบคลุมค่าบำรุงรักษา และต้นทุนอื่น ๆ แหล่งข่าวอีกคนซึ่งเป็นชาวเวียดนามที่ได้ฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับข้อหารือระบุว่า โมเดลที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคือเครื่องบินซี-130เจ ซึ่งเป็นการซื้อซ้ำเครื่องบินรุ่นนี้ครั้งล่าสุด

แหล่งข่าวทั้งสองคนไม่อาจระบุถึงมูลค่ารวมของดีลและจำนวนเครื่องบินที่อยู่ระหว่างการเจรจานี้ได้ โดยแหล่งข่าวไม่ต้องการเปิดเผยชื่อ เนื่องจากการหารือไม่ได้เป็นสาธารณะ ซึ่งบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin LMT.N) บอกให้ไปถามรัฐบาลสหรัฐหรือรัฐบาลเวียดนาม ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้ความเห็น และกระทรวงกลาโหมเวียดนามไม่ตอบสนอง

ADVERTISMENT

การหารือซื้ออาวุธจากสหรัฐอยู่ระหว่างเจรจามาหลายเดือน ก่อนการเปลี่ยนผู้นำเวียดนามครั้งใหญ่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญและนักวิเคราะห์ระบุว่า จะไม่เปลี่ยนท่าทีด้านกิจการต่างประเทศและเศรษฐกิจของเวียดนามไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยที่การหารือดังกล่าวแสดงถึงความพยายามของสหรัฐในการทำให้เวียดนามคล้อยตาม หลังผ่านมาเกือบจะครึ่งศตวรรษ นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเวียดนาม

นับตั้งแต่การยกเลิกคว่ำบาตรอาวุธในปี 2016 การส่งออกทางกลาโหมของสหรัฐไปเวียดนามมักจำกัดอยู่แค่เรือลาดตระเวนชายฝั่งและเครื่องบินฝึกสอน ซึ่งที่ผ่านมาดีลซื้อและขายอุปกรณ์ทางทหารอื่น ๆ ไม่สำเร็จ เนื่องจากอุปสรรคด้านราคา การอนุมัติของรัฐบาลสหรัฐ ความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ที่มีอยู่เดิมล้วนเป็นข้อกังวลของเวียดนาม

ADVERTISMENT

ในส่วนเครื่องบินขับไล่ ตำรวจเวียดนามกำลังพิจารณาซื้อเฮลิคอปเตอร์ที่ผลิตโดยสหรัฐ และกระทรวงกลาโหมพิจารณาเครื่องบินสหรัฐประเภทต่าง ๆ รวมถึงเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 เจ้าหน้าที่เวียดนามยืนยันได้มีการพูดคุยการขายเอฟ-16 ซึ่งผลิตโดยล็อกฮีด มาร์ตินเช่นกัน แต่ระบุว่าการเจรจามีความคืบหน้าน้อยกว่าดีลซี-130 เนื่องจากเครื่องบินรบสหรัฐถูกมองว่าอาจกระทบความสัมพันธ์ของเวียดนามกับชาติอื่น ๆ ในขณะที่เครื่องบินซี-130 มีความอ่อนไหวน้อยกว่า เพราะถูกมองว่าเป็นอุปกรณ์ป้องกันไม่ใช่อุปกรณ์สู้รบ

เจ้าหน้าที่เวียดนามรายหนึ่งระบุว่า สภาคองเกรสอนุมัติซื้อเครื่องบินรบอาจยากกว่าอนุมัติเครื่องบินซี-130 และว่า เวียดนามยังกังวลเกี่ยวกับว่าสหรัฐอาจอนุมัติการขายขีปนาวุธเพื่อติดตั้งบนเครื่องบินเอฟ-16 ด้วยหรือไม่ นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นสิทธิมนุษยชนในเวียดนาม ยิ่งทำให้การอนุมัติซื้ออาวุธยิ่งยุ่งยากซับซ้อน