
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยประมาณการจีดีพีไตรมาส 2 ปี 2024 โตเร็วกว่าคาดที่ 2.8% ตลาดมั่นใจเฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง แนวโน้มครึ่งปีหลังยังไม่ชัดเจน
วันที่ 25 กรกฎาคม 2024 สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาเผยแพร่ประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 2 ปี 2024 ซึ่งเป็นประมาณการล่วงหน้าหรือประมาณการครั้งแรกว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) เติบโตขึ้น 2.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) เติบโตในอัตราเร่งขึ้นจากไตรมาสแรกที่เติบโต 1.4% (YOY)
สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจระบุว่า การเพิ่มขึ้นของจีดีพีที่แท้จริงนั้น หลัก ๆ แล้วสะท้อนการเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนในสินค้าคงคลังของภาคเอกชน และการลงทุนถาวรที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย ส่วนการนำเข้าซึ่งต้องนำมาหักลบในสมการคำนวณจีดีพีนั้นก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QOQ) การเร่งตัวของอัตราการเติบโตของจีดีพีในไตรมาสที่ 2 สะท้อนถึงการฟื้นตัวของการลงทุนสินค้าคงคลังภาคเอกชนและการเร่งตัวขึ้นของการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งการเคลื่อนไหวเหล่านี้ถูกหักล้างไปบางส่วน โดยการชะลอตัวของการลงทุนถาวรในที่อยู่อาศัย
ส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ณ ราคาปัจจุบัน (Nominal GDP) เพิ่มขึ้น 5.2% (YOY) หรือ 360,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 28.63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นในอัตราเร่งขึ้นจากไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้น 4.5% (YOY) หรือ 312,200 ล้านดอลลาร์
ด้านดัชนีราคาสินค้าอุปโภคบริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 2.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) ซึ่งหมายความว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในไตรมาส 2 อยู่ที่ 2.3% ชะลอลงจากไตรมาส 1 ซึ่งอยู่ที่ 3.1% ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 2.6% (YOY) ชะลอลงจากไตรมาสแรกที่เพิ่มขึ้น 3.4% (YOY)
อย่างไรก็ตาม สำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจระบุว่า ประมาณการที่เผยแพร่ในวันนี้อิงตามข้อมูลต้นฉบับที่ยังไม่สมบูรณ์ หรืออยู่ระหว่างการแก้ไขเพิ่มเติมโดยหน่วยงานต้นทาง ซึ่งข้อมูลจะสมบูรณ์ยิ่งขึ้นในประมาณการครั้งที่ 2 ที่จะเปิดเผยในวันที่ 29 สิงหาคม
ตามการรายงานของบลูมเบิร์ก (Bloomberg) โอลา โซโนลา (Olu Sonola) หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจของ “ฟิทช์ เรตติ้งส์” (Fitch Ratings) กล่าวในบทวิคราะห์ว่า นี่คือรายงานที่สมบูรณ์แบบสำหรับเฟด การเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีแรกไม่ร้อนแรงเกินไป เงินเฟ้อยังคงเย็นลง และการลงจอดอย่างนุ่มนวล (Soft Landing) ที่ยากจะเอื้อมถึงก็ดูจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เศรษฐกิจสหรัฐที่โตเร็วกว่าคาดในไตรมาส 2 ปี 2024 และอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง ส่งผลให้ตลาดคงคาดการณ์ตามเดิมว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้
รอยเตอร์ระบุว่า แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่แนวโน้มในช่วงครึ่งหลังของปีก็ยังคงไม่ชัดเจน โดยมีทั้งปัจจัยเรื่องตลาดแรงงานที่กำลังชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการปรับขึ้นค่าจ้าง ขณะที่อัตราการออมนั้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเกิดโรคโควิด-19 อย่างมาก และนักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า โดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนในสหรัฐยังคงรู้สึกได้ถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่รายได้ของรัฐและรัฐบาลท้องถิ่นก็ชะลอตัวเช่นกัน ซึ่งอาจบั่นทอนการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราภาษีใหม่ ๆ ที่อาจจะถูกประกาศใช้หากโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง ซึ่งภาษีเหล่านั้นอาจส่งผลให้ภาคธุรกิจต้องนำเข้าสินค้าล่วงหน้า