
บีบีซีรายงาน กรณีโซเชียลมีเดียจีนถกกันถึงทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตา และรันนิงเมตของกมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ว่าจะส่งผลถึงความสัมพันธ์สองชาติสหรัฐและจีนอย่างไรได้บ้าง
อย่างที่ทราบ เมื่อวันอังคารที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีและตัวแทนพรรคเดโมแครต เลือกทิม วอลซ์ ผู้ว่าการรัฐมินนิโซตาเป็นผู้สมัครรองประธานาธิบดี โซเชียลมีเดียจีนกำลังถกกันว่า นายวอลซ์ใช้เวลา 1 ปีเป็นครูสอนในมณฑลกวางตุ้งในปี 1989 อย่างไร หัวข้อที่กลายเป็นเทรนด์ในเว่ยป๋ออย่างรวดเร็วด้วยยอดวิว 12 ล้านวิว ซึ่งตัววอลซ์และภรรยา เกวน วิปเปิล เป็นเพื่อนร่วมงาน ต่อมาแต่งงานและเลือกฮันนีมูนที่ประเทศจีน และครั้งหนึ่งนายวอลซ์อธิบายการตัดสินใจสอนในจีนว่า เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยทำมา
วอลซ์เคยเป็นครูสอนประวัติศาสตร์และโค้ชฟุตบอลก่อนเข้ามาเล่นการเมือง เพิ่งเรียนจบจากวิทยาลัยใหม่ ๆ ก็ย้ายมาจีนเพื่อสอนวิชาภาษาอังกฤษและประวัติศาสตร์อเมริกัน ในปีเดียวกันกับที่เกิดเหตุการณ์สังหารหมู่เทียนอันเหมินปี 1989 ซึ่งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน รถถังจีนเคลื่อนเข้ามาที่จัตุรัสกลางกรุงปักกิ่ง ซึ่งประชาชนหลายร้อยคนชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง ลงเอยนองเลือด และจนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่ามีผู้เสียชีวิตเท่าไหร่ คาดว่าผู้เสียชีวิตมากกว่า 10,000 รายขึ้นไป
ยูสเซอร์โซเชียลมีเดียจีนพูดเกี่ยวกับเหตุการณ์ 1989 มากนักไม่ได้ หรือเสี่ยงถูกเซ็นเซอร์ โดยมักเลือกพูดอ้อม ๆ คอมเมนต์หนึ่งระบุว่า “หากคุณรู้ คุณก็รู้ว่าจริง ๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น”
“ชาวต่างชาติที่อยู่ในจีนช่วงเวลานั้นคือคนที่ต่อต้านจีนมากที่สุด” คอมเมนต์หนึ่งระบุ
ยูสเซอร์หนึ่งชี้ว่า จีนในปี 1989 เป็นชาติที่แตกต่างอย่างมากก่อนที่จีนจะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตของโลกนานพอสมควร จากนั้นตามด้วยเศรษฐกิจอันดับสองของโลก และในที่สุดคู่แข่งที่ทรงอำนาจต่อสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังหวังว่า หากเขาชนะ เขาอาจส่งสัญญาณที่ดีขึ้นในความสัมพันธ์สหรัฐ-จีน ซึ่งขณะนี้สองประเทศยังคงขัดแย้งในด้านการค้า เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และความทะเยอทะยานด้านภูมิรัฐศาสตร์ของจีน ผู้ใช้เว่ยป๋อรายหนึ่งระบุว่า ภูมิหลังที่ต่างออกไปของวอลซ์ให้มุมมองที่จริงเกี่ยวกับจีน และวอลซ์อาจส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ ในยามที่ความสัมพันธ์สองชาติเผชิญความยากลำบากอย่างยิ่ง
วอลซ์สอนที่โรงเรียนมัธยมโฟซาน นัมเบอร์วัน ไฮสคูล ตามโครงการอาสาสมัครของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อกลับสหรัฐแล้ว กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อจำกัดใดที่จะมาขวางความสำเร็จของจีน หากจีนมีผู้นำที่เหมาะสม “พวกเขาช่างใจดี มีน้ำใจ คนที่มีความสามารถ” วอลซ์กล่าว ทั้งนี้ วอลซ์และภรรยาแต่งงานเมื่อ 4 มิถุนายน 1994 ครบรอบ 5 ปีเหตุการณ์ลุกฮือเทียนอันเหมิน ซึ่งภรรยากล่าวในการสัมภาษณ์ว่า วอลซ์ต้องการได้วันที่จะจำได้อยู่เสมอ จากนั้นทั้งคู่เริ่มทำธุรกิจจัดทริปเรียนภาคฤดูร้อนที่จีนสำหรับนักเรียนอเมริกัน