
เข้าโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ กำหนดเริ่มดีเบตวันอังคารที่ 10 กันยายน เวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับวันพุธช่วงเช้าของประเทศไทยโดยประมาณ ถือเป็นดีเบตเดิมพันสูง เวทีที่ใหญ่ที่สุดในการเมืองสหรัฐระหว่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” อดีตประธานาธิบดีและตัวแทนพรรครีพับลิกัน และ “กมลา แฮร์ริส” รองประธานาธิบดีและตัวแทนพรรคเดโมแครต
การดีเบตครั้งนี้สามารถชี้ชะตาทางการเมืองรอดหรือร่วง กระทั่งพ้นจากการแข่งขันได้เลย อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่ต้องถอนตัวไป หลังผู้สนับสนุนพรรคไม่ประทับใจผลงานการดีเบตเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ข้อมูลพื้นฐาน
ห่างกัน 75 วันหลังจากดีเบตทรัมป์ กับ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ครั้งนี้การโต้วาทีระหว่างทรัมป์กับแฮร์ริสจัดโดยสถานีโทรทัศน์เอบีซี นิวส์ (ABC News) ที่สถาบันด้านการศึกษาและอภิปรายด้านรัฐธรรมนูญแห่งชาติ เมืองฟิลาเดลเฟีย หรือ Philadelphia’s National Constitution Center
นอกเหนือจากช่องของเจ้าภาพแล้ว โลกยังสามารถจับตาดูดีเบตครั้งนี้ผ่านบริการสตรีมมิ่งของ ดิสนีย์ พลัส (Disneys+) และฮูลู (Hulu) ได้ด้วย
ทีมหาเสียงสองฝ่ายตกลงกันว่า ไม่มีผู้ชมในห้องส่งที่เข้าฟังสดและจะไม่มีการเปิดไมค์ แม้ว่าแฮร์ริสผลักดันให้มี หรือก็คือ “ไมค์ด่วน” ที่ผู้ดีเบตสามารถโต้แย้งฝ่ายตรงข้ามได้ทันอย่างทันควัน ซึ่งถูกวิจารณ์จากทีมแฮร์ริสว่า กติกาดังกล่าวปกป้องทรัมป์ เนื่องจากมองว่ากีดกันแฮร์ริสจากการใช้ประโยชน์ในด้านทักษะการโต้เถียงของอดีตอัยการ
กติกาการดีเบตจะไม่มีแคนดิเดตคนไหนที่เข้าถึงหัวข้อหรือคำถามก่อน และจะไม่มีถ้อยแถลงกล่าวเปิดและสรุปการอภิปรายจากแคนดิเดต อีกทั้งไม่มีอุปกรณ์ประกอบดีเบต หรือกล่าวตามโน้ตที่ร่างไว้ล่วงหน้า และต้องตอบคำถามภายใน 2 นาที
ดีเบตเดิมพันสูง
ความยาวดีเบตเวลา 90 นาที อาจเป็นโอกาสดีเบตครั้งแรกและครั้งเดียวที่ทรัมป์ และแฮร์ริส ประชันวิสัยทัศน์ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้
อัลจาซีร่า (Al jazeera) ระบุว่า นับเป็นการดีเบตที่เดิมพันสูง แฮร์ริสเผชิญกับการคาดหวังที่สูงอย่างมาก หลังจากผลการดีเบตของไบเดนลงเอยกลายเป็นหายนะจนต้องถอนตัวจากการแข่งขันกลางคัน โดยไม่สามารถกล่าวจนจบประโยคได้ และล้มเหลวในการสื่อสารกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งแม้ในประเด็นพื้นฐาน
ภารกิจอันดับแรกของทรัมป์คือ หยุดยั้งช่วง “ฮันนีมูน” ของแฮร์ริส กล่าวคือแฮร์ริสได้ประโยชน์จากการความตื่นเต้นของโหวตเตอร์ที่เพิ่มขึ้นในเวลารวดเร็ว ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในความท้าทายสำหรับแฮร์ริสที่จะรักษาโมเมนตัมนี้เอาไว้
ด้วยปัจจัยเชื้อชาติและสีผิวทำให้รองประธานาธิบดีเชื้อสายแอฟริกันและอินเดียนอเมริกันคนแรกของสหรัฐ ได้รับแรงกดดันจากการดวลดีเบตที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งสัดส่วนกลุ่มประชากรผิวดำมีขนาดใหญ่ที่สุด
เบื้องหลังเตรียมดีเบต
ฝั่งแฮร์ริสมาในสไตล์อดีตอัยการเก่า จากที่เคยดำรงตำแหน่งทั้งอัยการเขตซานฟรานซิสโกและอัยการสูงสุดรัฐแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ “ดิก เชนีย์” อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกันประกาศสนับสนุนแฮร์ริส โดยระบุว่าประเทศสำคัญกว่าพรรค และเหนือกว่าการประณามทรัมป์
แฮร์ริสปักหมุดรัฐเพนซิลเวเนีย ฝึกซ้อมการดีเบตกับสแตนอินของทรัมป์ โดยให้ที่ปรึกษาแต่งกายเลียนแบบทรัมป์เพื่อสร้างความคุ้นชิน เหมือนการฝึกซ้อมของไบเดน
ฝั่งทรัมป์ สไตล์ด้นสด ไม่เน้นซ้อมแบบตายตัว แต่ปล่อยการโต้เถียงเป็นไปโดยอิสระและเสรี เป็นในรูปแบบเดิม เน้นฝึกกับทีมงานและอาจใช้เทคนิคครูพักลักจำนำเทคนิคของ “ทุลซี แกบบาร์ด” (Tulsi Gabbard) อดีต สส.เดโมแครตที่นักวิจารณ์ระบุว่าเอาชนะการดีเบตกับแฮร์ริสได้อย่างโดดเด่น
เซนส์ที่ 6 ของทรัมป์
รายงานของอัลจาซีรา (Al Jazeera) ระบุว่า ทรัมป์ผู้มีสัมผัสที่ 6 หรือ Trump’s sixth sense กล่าวคือรู้จักจังหวะชิงความได้เปรียบทางการเมือง เพื่อให้สามารถควบคุมวงจรข่าวและช่วงชิงพื้นที่สื่อ ทรัมป์รู้ว่าจะโพสท่าต่อหน้ากล้องอย่างไร โดยเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับกล้องอยู่เสมอ ยกตัวอย่าง ทรัมป์ทำท่าปั๊มกำปั้น (fist pump) หลังถูกพยายามลอบสังหาร เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อสื่อสารกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทันทีว่าตนเองไม่เป็นไร
แคนดิเดตมักถูกคาดหวังเรื่องมาตรฐานจากประชาชน แต่ไม่ใช่กับทรัมป์ ไม่มีมาตรฐานใดที่นำมาใช้กับทรัมป์ได้ เนื่องจากฐานเสียงทรัมป์เลือกเขาอยู่ดี ผู้เชี่ยวชาญมองว่าทรัมป์ควรขยายคะแนนเสียงออกไปจากฐานเดิมเพื่อเอาชนะศึกครั้งนี้
ทำไมจัดเมืองฟิลาเดลเฟีย
เการดีเบตครั้งนี้จัดขึ้นที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเอพี (AP) รายงานว่า รัฐเพนซิลเวเนียเป็นรัฐสะวิงสเตตที่มีประชากรมากที่สุด และสำคัญเป็นพิเศษสำหรับแฮร์ริส เพราะนับตั้งแต่ปี 1948 เป็นต้นมา ไม่มีแคนดิเดตจากพรรคเดโมแครตคนไหนเลยที่ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีได้โดยไม่ชนะในรัฐเพนซิเวเนีย
หากพ่ายในรัฐนี้จะทำให้ยากที่จะชดเชยคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งในที่อื่น ๆ ได้ ดังนั้น เพื่อชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี จึงเห็นได้ว่าทรัมป์และแฮร์ริสได้มาเยือนเพนซิลเวเนียบ่อยครั้งในช่วงไม่นานมานี้ อย่างแฮร์ริสมีแผนจะกลับมาอีกครั้งในวันศุกร์นี้ ส่วนทรัมป์ก็มากล่าวปราศรัยไปแล้วในเขตบัตเลอร์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ตอนที่เขาตกเป็นเป้าหมายในเหตุพยายามลอบสังหาร
ประเด็นที่คาดว่าจะถูกหยิบยกขึ้นนำมาดีเบต
ถือเป็นเรื่องปกติที่ต่างฝ่ายต่างไม่เปิดเผยข้อมูลการเตรียมตัว จุดขยี้ และอื่น ๆ นอกเหนือจากการพยายามคาดเดาประเด็นที่อีกฝ่ายยกมาโจมตี จากการศึกษาประสบการณ์ในอดีตของคู่แข่ง ยกตัวอย่าง นโยบายต่างประเทศ แม้นโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติไม่ได้มีบทบาทโดดเด่นในการหาเสียงปีนี้ แต่คาดว่าทรัมป์โจมตีแฮร์ริสในประเด็นพรมแดนทางใต้ของสหรัฐ สงครามในกาซา การออกจากอัฟกานิสถานของสหรัฐ
ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า แฮร์ริสเผยเป็นนัยถึงจุดโฟกัสหลัก หรือที่เน้นขยี้ ว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะทิ้งความแตกแยกไว้ข้างหลังและก้าวไปข้างหน้าสู่ยุคใหม่”