
ทางการออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์ออกมาระบุว่า รัสเซียจะต้องรับผิดชอบต่อการยิงเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบินที่เอ็มเอช 17 ตกเหนือน่านฟ้าของยูเครนเมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา หลังทีมสอบสวนสาเหตุเครื่องบินตกแถลงว่า ขีปนาวุธที่ยิงใส่เครื่องบินดังกล่าวเป็นขีปนาวุธจากเครื่องยิงต่อต้านอากาศยานของกองทัพรัสเซีย
รัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ออกแถลงการณ์ระบุว่า สืบเนื่องจากผลสรุปของการสอบสวน เนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียเห็นว่ารัสเซียจะต้องรับผิดชอบที่ได้มีการเคลื่อนย้ายและติดตั้งเครื่องยิงต่อต้านอากาศยานซึ่งถูกนำไปใช้ในการยิงเครื่องบินเอ็มเอช 17 โดยหลังจากนี้ไปจะมีการเรียกร้องให้รัสเซียรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
แถลงการณ์ระบุว่า นอกจากรัสเซียจะต้องรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ยังต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่ถือเป็นการละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศด้วย พร้อมกับเรียกร้องให้รัสเซียแสดงความรับผิดชอบและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ต่อกระบวนการเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง และคืนความยุติธรรมให้กับเหยื่อที่เสียชีวิตในเที่ยวบินดังกล่าวรวมถึงญาติของพวกเขาด้วย
ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียระบุว่าผลสรุปดังกล่าวทำให้สามารถชี้ชัดได้ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการยิงเครื่องบินเอ็มเอช 17 โดยออสเตรเลียและเนเธอร์แลนด์ต่างเรียกร้องให้รัสเซียเข้าสู่กระบวนการหารือขั้นแรก
ขณะที่มีรายงานด้วยว่าสหรัฐ อังกฤษ สหภาพยุโรป และองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต) ต่างเรียกร้องให้รัสเซียแสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน
เที่ยวบินที่เอ็มเอช 17 เดินทางออกจากกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย โดยผู้โดยสารทั้ง 298 คนบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด หลังเครื่องบินถูกยิงตกเหนือเขตแดนที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียในยูเครน โดยผู้โดยสารเครื่องบินลำดังกล่าว 193 รายเป็นชาวเนเธอร์แลนด์ 43 รายเป็นชาวมาเลเซีย และ 27 รายเป็นชาวออสเตรเลีย ขณะที่ผู้โดยสารอื่นๆ มาจาก อินโดนีเซีย เบลเยียม เยอรมนี อังกฤษ และฟิลิปปินส์
ที่มา : มติชนออนไลน์