
เพย์พาล (PayPal) ให้บัญชี “ผู้ค้า” ในสหรัฐสามารถถือและซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอเรนซีได้แล้ว แสดงให้เห็นว่าตลาดมีการยอมรับคริปโตเคอเรนซีเพิ่มสูงขึ้น
วันที่ 26 กันยายน 2024 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เพย์พาล โฮลดิงส์ (PayPal Holdings) ประกาศในวันที่ 25 กันยายน ให้บัญชีประเภท “ผู้ค้า” (Merchant) ในสหรัฐสามารถซื้อ ถือ และขายคริปโตเคอเรนซีจากบัญชีเพย์พาลของตนได้แล้ว
โฆเซ แฟร์นานเดซ ดา ปอนเต้ (Jose Fernandez da Ponte) รองประธานอาวุโสฝ่ายบล็อกเชน คริปโตเคอเรนซี และสกุลเงินดิจิทัลของเพย์พาลกล่าวว่า เจ้าของกิจการหลายรายต่างแสดงความปรารถนากันมากขึ้นให้เพย์พาลสามารถเปิดให้บัญชี “ผู้บริโภค” สามารถทำธุรกรรมคริปโตเคอเรนซีได้ในลักษณะเดียวกันนี้
คริปโตเคอเรนซีขยับจากการเป็นสินทรัพย์ทางเลือกเกิดใหม่ จนถูกยอมรับจากตลาดมากขึ้น หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(SEC) ของสหรัฐ อนุมัติให้กองทุนที่ลงทุนในบิตคอยน์ (Bitcoin ETFs) ที่จดทะเบียนในสหรัฐถูกกฎหมายอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ เพย์พาลเข้าร่วมตลาดคริปโตเคอเรนซีเมื่อปี 2020 โดยอนุญาตให้ลูกค้าสามารถซื้อ ขาย หรือถือบิตคอยน์ และสกุลเงินเสมือนอื่น ๆ ในกระเป๋าเงินออนไลน์ของบริษัทชำระเงินทางดิจิทัลแห่งนี้
นอกจากนั้น เพย์พาลเป็นบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินรายใหญ่แห่งแรกที่เปิดรับสกุลเงินดิจิทัลสำหรับการชำระและโอนเงิน จากการเปิดตัว สเตเบิลคอยน์ (Stablecoin) ของตัวเองที่รองรับด้วยสกุลเงินดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม 2023
ทั้งนี้ สเตเบิลคอยน์คือสกุลเงินดิจิทัลที่มีการตรึงมูลค่าโดยทรัพย์สินคงที่อื่น ๆ เพื่อป้องกันความผันผวนของราคา
นอกจากนี้ เพย์พาลยังเปิดให้ผู้ประกอบการค้าในสหรัฐสามารถโอนคริปโตเคอเรนซีบนเครือข่ายไปยังกระเป๋าเงินของบุคคลที่สามที่เข้าเงื่อนไขได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เพย์พาลระบุในเว็บไซต์ว่า เมื่อเปิดตัวบริการนี้จะไม่พร้อมให้บริการกับบัญชีธุรกิจในรัฐนิวยอร์ก
ทั้งนี้ นับจากต้นปีจนถึงวันที่ 25 กันยายน (YTD) หุ้น PYPL ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แนสแดค (Nasdaq) เพิ่มขึ้นแล้วเกือบ 26%