ผู้ผลิตสินค้าทั่วโลกได้รับการต่อลมหายใจ เมื่อคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) จะเสนอให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่า (EUDR) ออกไป 1 ปี หลังมีการเรียกร้องจากภาคอุตสาหกรรมและรัฐบาลทั่วโลก รวมถึงรัฐบาลสหรัฐและบางประเทศในอียูเอง
วันที่ 3 ตุลาคม 2024 นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commison) ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป หรืออียู (EU) จะเสนอให้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดการตัดไม้ทำลายป่า (EU Deforestation Regulation : EUDR) ออกไป 1 ปี หลังจากที่มีการเรียกร้องจากภาคอุตสาหกรรมและรัฐบาลทั่วโลก
คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า ข้อเสนอนี้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภายุโรปและประเทศสมาชิก พร้อมกับได้เผยแพร่เอกสารแนวทางเพิ่มเติมด้วย
ทั้งนี้ บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปได้ผ่อนปรนมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมหลายมาตรการในปีนี้ เพื่อพยายามระงับการประท้วงของเกษตรกรในสหภาพยุโรปเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ รวมถึงนโยบายสีเขียวของสหภาพยุโรป และการนำเข้าสินค้าราคาถูก
กฎหมาย EUDR ซึ่งห้ามสหภาพยุโรปนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำลายป่า ได้รับการยกย่องให้เป็นกฎหมายสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนของนานาชาติในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ภาคอุตสาหกรรมและประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่บราซิลไปจนถึงมาเลเซีย กล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อกีดกันทางการค้า และอาจทำให้เกษตรกรรายย่อยที่ยากจนหลายล้านคนถูกตัดสิทธิการเข้าถึงตลาดสหภาพยุโรปได้
นอกจากนี้ ยังมีคำเตือนอย่างกว้างขวางจากภาคอุตสาหกรรมว่า กฎ EUDR นี้จะรบกวนห่วงโซ่อุปทานของสหภาพยุโรปให้เกิดการชะงัก และจะผลักให้ราคาสินค้าสูงขึ้น
แม้แต่ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเองก็มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากกฎดังกล่าว โดยเมื่อเดือนมีนาคม 2024 มีประเทศสมาชิก 20 ประเทศจากทั้งหมด 27 ประเทศได้ขอให้ฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปปรับลดความเข้มงวดของกฎดังกล่าวลง และอาจเลื่อนการบังคับใช้ โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรในสหภาพยุโรปเอง ซึ่งจะถูกห้ามส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ปลูกในพื้นที่ที่ถูกทำลายป่า
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นพันธมิตรและคู่ค้ารายสำคัญของสหภาพยุโรปเป็นประเทศหนึ่งที่ได้ขอให้สหภาพยุโรปชะลอการบังคับใช้กฎ EUDR โดยฝ่ายบริหารของสหรัฐอเมริกาได้ส่งจดหมายลงวันที่ 30 พฤษภาคม 2024 ถึงคณะกรรมาธิการยุโรป ขอให้ชะลอการใช้มาตรการ EUDR โดยให้เหตุผลว่ามาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตสินค้าในสหรัฐ
จีนา เรมอนโด (Gina Raimondo) รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ โธมัส วิลแซ็ก (Thomas Vilsack) รัฐมนตรีเกษตรสหรัฐ และ แคเทอรีน ไท่ (Katherine Tai) ผู้แทนการค้าของสหรัฐ กล่าวร่วมกันในจดหมายที่ส่งถึงฝ่ายบริหารสหภาพยุโรปว่า กฎหมายว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของอียูก่อให้เกิด “ความท้าทายที่สำคัญ” ต่อผู้ผลิตสินค้าในสหรัฐ
“ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปชะลอการดำเนินการตามกฎระเบียบนี้และการบังคับใช้บทลงโทษ จนกว่าความท้าทายที่สำคัญเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขแล้วเสร็จ”
ทั้งนี้ กฎ EUDR มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2023 และตามกำหนด ณ ปัจจุบันจะมีผลในทางปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2024 นี้ โดยบังคับใช้กับทั้งผู้ประกอบการและผู้ค้าที่จะจำหน่ายสินค้าในตลาดอียู โดยกำหนดว่าสินค้าต้องผ่านเงื่อนไข 3 ข้อคือ (1) ต้องไม่มาจากการบุกรุกพื้นที่ป่า (2) ต้องมีกระบวนการผลิตที่ถูกต้องตามกฎหมายของประเทศผู้ผลิต และ (3) ต้องมีการตรวจสอบและประเมินสินค้า (Due Diligence)