เกาหลีใต้วิกฤต เงินกองทุนบำนาญเสี่ยงหมดในปี 2055 รัฐบาลอยากปฏิรูปแต่ไม่ง่าย  

หญิงชราที่หน้าสถานีรถไฟปูซาน (ภาพโดย ANTHONY WALLACE / AFP)
หญิงชราที่หน้าสถานีรถไฟปูซาน (ภาพโดย ANTHONY WALLACE / AFP)

กองทุนบำเหน็จบำนาญเกาหลีใต้กำลังเผชิญวิกฤต เนื่องจากประชากรกลุ่มใหญ่กำลังจะเกษียณอายุ และอัตราการเกิดที่ต่ำ ทำให้เงินกองทุนอาจหมดลงภายในปี 2055 ประธานาธิบดีประกาศแผนปฏิรูป แต่โดนค้านทั้งจากฝ่ายค้านและประชาชน 

วันที่ 7 ตุลาคม 2024 นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า อนาคตของกองทุนบำเหน็จบำนาญเกาหลีใต้ต้องถูกตรวจสอบใหม่อีกครั้ง นับตั้งแต่ที่กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ (Ministry of Health and Welfare) คาดการณ์เมื่อปี 2023 ว่ากองทุนบำเหน็จบำนาญจะเริ่มขาดดุลในปี 2041 และจะหมดลงในปี 2055 เว้นแต่ว่าจะมีการปฏิรูปเกิดขึ้น

ยุน ซอก ยอล (Yoon Suk Yeol) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ตอบสนองต่อปัญหาด้วยการประกาศแผนปฏิรูประบบบำนาญขั้นพื้นฐานขึ้นในเดือนกันยายน ซึ่งเพิ่มอัตราเงินสมทบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 โดยเพิ่มจาก 9% เป็น 13% และผลประโยชน์ทดแทนจะถูกปรับโดยอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการคลัง

ข้อเสนอดังกล่าวส่งผลกระทบต่อคนวัยทำงานและวัยเกษียณ จึงถูกค้านทั้งโดยพรรคฝ่ายค้านที่ครองเสียงข้างมากในสภาและประชาชน

ประธานาธิบดียุนก็ตระหนักถึงความยากในการปฏิรูป เขาจึงกล่าวว่า “การปฏิรูปย่อมทำให้เกิดการต่อต้าน … ในทางการเมืองแล้ว การไม่ทำอะไรเลยจะง่ายกว่ามาก นั่นเป็นเหตุผลที่รัฐบาลในอดีตไม่แตะต้องเรื่องนี้”

เกาหลีใต้ปรับปรุงระบบบำนาญมาก่อนแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งในครั้งแรก คิม แด-จุง (Kim Dae-jung) อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ (ดำรงตำแหน่ง 1998-2003) ขยายอายุรับเงินบำนาญจาก 60 เป็น 65 ปี ส่วนโน มู-ฮยอน (Roh Moo-hyun) ปรับลดอัตราการชดเชยรายได้ (pension replacement rate) หรือจำนวนเงินที่จ่ายให้ผู้เกษียณต่อเดือนลงเหลือ 40% ของรายได้ก่อนเกษียณ

รัฐบาลของประธานาธิบดีโน มู-ฮยอน (ดำรงตำแหน่ง 2003-2008) คาดการณ์ในขณะนั้นว่าการปรับลดอัตราการชดเชยรายได้จะยืดลมหายใจให้กองทุนบำเหน็จบำนาญต่อไปอีกจนถึงปี 2060 แต่อัตราการเจริญพันธุ์ (Fertility Rate) ในเกาหลีกลับลดลงจาก 1.19 ในปี 2008 เป็น 0.72 ในปี 2023 ซึ่งประมาณการล่าสุดชี้ว่าภายในปี 2050 อัตราส่วนวัยแรงงานต่อผู้สูงวัยจะอยู่ที่ 1 ต่อ 1 

ADVERTISMENT

รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่ค่อยตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์มากนัก มุน แจ-อิน (Moon Jae-in) ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบบำนาญเป็นอันดับแรก โดยกล่าวว่าเขาจะไม่เปลี่ยนอะไรโดยปราศจากฉันทามติเป็นวงกว้าง

ด้วยอัตราการเกิดที่ต่ำลง อาจทำให้ประชากรรุ่นถัดไปต้องจ่ายเงินสมทบมากขึ้น แต่ได้รับสิทธิประโยชน์น้อยลง 

ความยากจนของผู้สูงอายุเป็นปัญหาใหญ่ในเกาหลีใต้ ซึ่งครัวเรือนได้รับเงินบำนาญโดยเฉลี่ย 838,000 วอนต่อเดือน (ราว 21,000 ต่อเดือน) ในปี 2012

ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้าปี 1999 กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติของเกาหลีใต้ยังไม่ครอบคลุมอย่างทั่วถึง ผู้สูงอายุหลายคนในปัจจุบันจึงยังไม่ได้เริ่มจ่ายเงินสมทบเข้าระบบในตอนเริ่มทำงาน จนกระทั่งถึงช่วงกลาง ๆ ของการทำงาน พวกเขาจึงได้เริ่มจ่ายเงินเข้าระบบ 

ข้อมูลจากองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ราว 40% ของผู้สูงอายุวัย 66 ปี หรือสูงกว่าในเกาหลีใต้ ตกอยู่ในความยากจนเชิงสัมพัทธ์ (relative poverty) โดยมีรายได้ต่ำกว่าครึ่งของค่ากลางของรายได้สุทธิส่วนบุคคลหลังหักภาษี (disposable income)