
ไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่ ติ๊กต๊อก (TikTok) เลิกจ้างพนักงานคัดกรองเนื้อหาทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในมาเลเซีย โดยประกาศว่าจะเปลี่ยนไปใช้ระบบอัตโนมัติในการคัดกรองและกำจัดเนื้อหาแทน
วันที่ 11 ตุลาคม 2024 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย “ติ๊กต๊อก” (TikTok) กำลังเลิกจ้างพนักงานหลายร้อยคนทั่วโลก โดยมีสัดส่วนใหญ่สุดในมาเลเซีย เนื่องจากบริษัทเปลี่ยนมาใช้ระบบอัตโนมัติปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการคัดกรองเนื้อหามากขึ้น
รอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า “ไบต์แดนซ์” (ByteDance) บริษัทแม่ของติ๊กต๊อก เลิกจ้างงานในมาเลเซียกว่า 700 ตำแหน่ง ก่อนจะชี้แจงอย่างละเอียดในภายหลังว่าทำการเลิกจ้างไม่ถึง 500 ตำแหน่งงาน ตามหน้าเว็บไซต์ ไบต์แดนซ์มีพนักงานมากกว่า 110,000 คน ในมากกว่า 200 เมืองทั่วโลก
แหล่งข่าวซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนระบุกับทางรอยเตอร์สว่า พนักงานส่วนใหญ่ซึ่งทำหน้าที่คัดกรองเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม ถูกชี้แจงประกาศเลิกจ้างผ่านทางอีเมล์ในวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา
ติ๊กต๊อกยืนยันกับทางรอยเตอร์ถึงการเลย์ออฟ โดยกล่าวว่าจะส่งผลกระทบต่อพนักงานหลายร้อยคนทั่วโลก เนื่องจากทางติ๊กต๊อกมีแผนพัฒนาปฏิบัติการควบคุมเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม ที่ผ่านมา ติ๊กต๊อกใช้งานทั้งมนุษย์และระบบอัตโนมัติในตรวจสอบเนื้อหาบนแพลตฟอร์ม กว่า 80% ของการกำจัดเนื้อหาที่ละเมิดกฎเกณฑ์ถูกกำจัดด้วยระบบอัตโนมัติ
หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าวกับทางรอยเตอร์ว่า ไบต์แดนซ์ยังคงกำลังวางแผนลดรายจ่ายมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากว่าไบต์แดนซ์อาจกำลังรวมดำเนินการบางภูมิภาคเข้าด้วยกัน
โฆษกของติ๊กต๊อกกล่าวในแถลงการณ์ว่า ไบต์แดนซ์กำลังพยายามทำการเปลี่ยนแปลงเพื่อเสริมการดำเนินงานควบคุมเนื้อหาในระดับโลก ซึ่งไบต์แดนซ์คาดว่าจะลงทุนด้านทรัสต์แอนด์เซฟตี้ (Trust & Safety) ภายในปีนี้ เป็นจำนวนเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก (ราว 66,600 บาท) เพื่อปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการควบคุมเนื้อหา
โดยต้นปีที่ผ่านมา มาเลเซียรายงานเกี่ยวกับเนื้อหาอันตรายที่มากขึ้นบนโซเชียลมีเดีย และเรียกร้องให้บริษัททั้งหลาย ยกระดับการตรวจสอบเนื้อหาบนแพลตฟอร์มมากขึ้น
เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมทางไซเบอร์ ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียต้องรับใบอนุญาตจากรัฐบาลภายในเดือนมกราคม ทำให้ไบต์แดนซ์ต้องเผชิญกับระเบียบข้อบังคับที่เข้มงวดมากขึ้น และอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเลย์ออฟ